21-02-2560

เผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่องพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของประชาชนอายุ 15

   นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานในปี 2558 มีมูลค่ากว่า 49,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในปี 2559 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 53,000 ล้านบาท ทำให้ผู้ผลิตมีการแข่งขันการโฆษณาผลิตภัณฑ์โดยเน้นคุณประโยชน์การบำรุงสมอง / บำรุงสุขภาพ / กระตุ้นภูมิคุ้มกัน จนก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสุขภาพ

   นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร กล่าวต่อไปว่า สนับสนุนบริการสุขภาพ ได้สำรวจความคิดเห็นในเรื่องพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของประชาชนอายุ 15 ปี ขึ้นไป 4 ภาค รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 512 คนในเดือนตุลาคม 2559 พบว่ากลุ่มตัวอย่างยังมีความเข้าใจในเรื่องการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง โดยร้อยละ 70 คิดเห็นว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นสิ่งจำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ พบในกลุ่มอายุ 21-30 ปีมากที่สุดร้อยละ 74 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 31- 40 ปีร้อยละ 72 เมื่อแยกตามระดับการศึกษา พบว่ากลุ่มผู้ที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมีความคิดเห็นเรื่องนี้สูงที่สุดคิดเป็นร้อยละ 77 เมื่อแยกรายอาชีพพบในกลุ่มพ่อบ้าน/แม่บ้านมากที่สุดร้อยละ 77 รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจส่วนตัวร้อยละ 74

  ทั้งนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะเร่งให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนทุกกลุ่มวัย ให้เกิดปัญญาทางสุขภาพ สามารถดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการปรับพฤติกรรมตนเองใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การรับประทานอาหารอย่างสมดุลให้ครบทั้ง 5 หมู่ รับประทานผักสด ผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัมขึ้นไป จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนตามหลักของธงโภชนาการ หลีกเลี่ยงการกินอาหารหวาน เค็ม มัน และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งได้ร้อยละ 20-30 ชะลอความแก่ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค / ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน จะช่วยลดความเสี่ยงและการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง และช่วยผ่อนคลายความเครียด / นอนหลับอย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซ่อมแซมเซลล์หรืออวัยวะที่สึกหรอ และปรับสมดุลฮอร์โมน ของร่างกาย