05-04-2560

ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและงานวิจัย กับสถาบันวิจัยกสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ สปป.ลาว

   ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เปิดเผยว่าสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติหรือ สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและงานวิจัย กับสถาบันวิจัยกสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว โดย ดร.บุญถ่อง บัวหอม ผู้อำนวยการสถาบันการวิจัยกสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ หรือ NAFRI สปป.ลาว ร่วมลงนาม เพื่อร่วมกันดำเนินงานวิจัยและพัฒนาสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตร มีกรอบระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2565)

   โดย ดร.ณรงค์ กล่าวว่า สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ได้ริเริ่มโครงการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน ในปี 2544 เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงส่งเสริมการสร้างเครือข่ายนักวิจัยในภูมิภาค เพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์ของภูมิภาคอาเซียนในปี 2563 ที่ต้องการขับเคลื่อนการแข่งขันทางเทคโนโลยี ทั้งในเชิงกลยุทธ์ และการพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพ มีการให้ทุนสำหรับนักวิจัยเพื่อทำวิจัยในห้องปฏิบัติการวิจัยของไบโอเทค เป็นเวลา 3-6 เดือน หลักสูตรฝึกอบรมเน้นการให้ความรู้พื้นฐานทางเทคโนโลยีชีวภาพและการปฏิบัติจริง โดยมีนักวิจัย พี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำในการทำโครงการวิจัย มีนักวิจัยต่างชาติ ได้ทุน 179 ทุน ส่วนหนึ่งได้ทุนการศึกษาขั้นสูงเรียน ต่อในประเทศต่างๆ และนักวิจัยที่กลับไปทำงานที่สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต้นสังกัดในประเทศตนเอง การสร้างความร่วมมือใหม่ๆ กับนักวิจัยไบโอเทคอย่างต่อเนื่อง

  นอกจากนี้ยังมีโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้การใช้เทคโนโลยีเครื่องหมายโมเลกุลในการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ข้าวผ่านการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่มีการปฏิบัติงานระยะยาวโดยใช้โจทย์วิจัยของแต่ละประเทศเป็นหัวข้อในการฝึกอบรม การสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าวและการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ทดสอบลักษณะสำคัญทางการเกษตรต่างๆ

   ด้านดร.บุญถ่อง บัวหอม ผู้อำนวยการสถาบันการวิจัยกสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ สปป.ลาว หรือ NAFRI กล่าว่าจากการช่วยเหลือของ สวทช.ซึ่งนักวิจัยประสบความสำเร็จในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเหนียวหอม ท่าดอกคำ 1 ที่มีความหอม และคุณภาพการหุงต้มดีกว่าพันธุ์ดั้งเดิม สายพันธุ์ข้าวเจ้าเซบั้งไฟ 2 และเซบั้งไฟ 3 ซึ่งปรับตัวได้ดีทั้งในสภาพน้ำมากและน้ำน้อย และมีคุณภาพการหุงต้มดี และหอม เซบั้งไฟ 4 ซึ่งเป็นข้าวเหนียว ที่มีความหอมทนน้ำท่วม และต้านทานโรคไหม้ จากความร่วมมือดังกล่าว สวทช. และสถาบันวิจัยกสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้หารือและเห็นชอบร่วมกันในการจัดทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและงานวิจัย ระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี (ปี 2560 - 2565) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันดำเนินงานวิจัยและพัฒนา การสร้างขีดความสามารถ และการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตร เช่น การเก็บรวบรวมและประเมินเชื้อพันธุกรรมของข้าว ข้าวโพด และพืชอื่น ทั้งลักษณะฟีโนไทป์ และลักษณะจีโนไทป์ เป็นต้น นับเป็นการช่วยสร้างความสามารถทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพให้กับภูมิภาคอาเซียน ทั้งการพัฒนาบุคลากรและการวิจัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความเข้มแข็งด้านการเกษตรอย่างยั่งยืนร่วมกัน