14-07-2560

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการลงนามบันทึกข้อตกลงยอมรับร่วม สำหรับรายงานศึกษาชีวสมมูลผลิตภัณฑ์ยาสามัญของอาเซียน

   พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข เสนอ ขออนุมัติการลงนามข้อตกลง ที่จะยอมรับรายงานการศึกษาชีวสมมูล ของผลิตภัณฑ์ยาสามัญของอาเซียน โดยหลักการกระบวนการขึ้นทะเบียนยาสามัญ เช่น ยาลดไขมัน / ยาต้านไวรัส Hiv ซึ่งสำนักงานอาหารและยา หรือ อย. ได้กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติไว้ว่า การยื่นขอขึ้นทะเบียนจะต้องมีรายงานการศึกษาชีวสมมูล หรือข้อมูลประเภท อัตราการดูดซึมของยาเข้าสู่ร่างกายเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมา อย. จะยอมรับข้อมูลจากศูนย์ชีวสมมูลภายในประเทศไทยเท่านั้น แต่ข้อตกลงระหว่างอาเซียนที่ต้องการให้ประเทศต่างๆ ยอมรับและยินดีตรวจสอบรายงานศึกษาชีวสมมูลแม้ว่าเป็นรายงานศึกษานอกประเทศไทย แต่ต้องเป็นข้อมูลจากศูนย์ชีวสมมูลภายในประเทศอาเซียนซึ่งได้รับการยอมรับมาตรฐานและขึ้นบัญชีของอาเซียนไว้แล้ว โดยขอให้ประเทศอาเซียนใช้เวลาไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ เมื่อมีการลงนามแล้วจะส่งผลให้มียาสามัญใหม่ จากต่างประเทศได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยมากขึ้น ประชาชนจะสามารถเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก ส่วนผลเสียจะทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตยาในประเทศมีส่วนแบ่งการตลาดลดลง แต่จากการหารือร่วมกันทุกฝ่ายยอมรับได้ หากเป็นประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านมาตรฐานและคุณภาพของอาเซียน ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จึงควรใช้โอกาสนี้ลงนาม เพราะเหลือประเทศไทยและฟิลิปปินส์ อีก 2 ประเทศ ที่ยังไม่ได้ลงนามข้อตกลงนี้

   ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ ไปศึกษาดูว่าเมื่อดำเนินการแล้ว จะมีมาตรการลดผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตยาในประเทศอย่างไร เพื่อให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้