นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แจ้งว่า กรมการตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.มาเลเซีย ประกาศว่าได้เริ่มปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมนายจ้างและลูกจ้างที่เป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศอย่างเข้มงวด หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการออกบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ผ่อนผันให้กับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ไม่มีหนังสือเดินทาง ตามโครงการ Rehiring Program (รี-ฮาย-ริง-โปรแกรม) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในช่วงวันที่ 1-10 กรกฎาคม 2560 สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายได้จำนวน 3,014 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนไทย จำนวน 111 คน และดำเนินคดีนายจ้างแล้ว 57 ราย ทั้งนี้ ตม.มาเลเซีย ยังย้ำอีกว่าปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมอย่างเข้มงวดในครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีกำหนดสิ้นสุด

   อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแนะนำให้คนไทยในมาเลเซียทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างรีบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายมาเลเซีย และขอย้ำเตือนผู้ที่ประสงค์จะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียให้ไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่าลักลอบเข้าเมืองไปโดยเด็ดขาด เนื่องจากการเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียในทุกอาชีพและทุกประเภทจะต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานซึ่งหากพบว่าเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะมีโทษรุนแรง ปรับไม่เกิน 10,000 ริงกิต หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับและถูกเฆี่ยน 6 ครั้ง รวมถึงการทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตามระยะเวลาของโทษคือ 6 เดือน ถึง 1 ปี ปรับ 2,100 ริงกิต /สำหรับโทษมากกว่า 2 ปี ถึง 6 ปี ปรับ 3,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางานหมายเลข 1694