นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ปัจจุบันต่างประเทศมีการรายงานพบเด็กวัยรุ่นสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปี 2554 ซึ่งในประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นที่สนใจในวัยรุ่นหลายกลุ่ม เหตุเพราะรูปลักษณ์และองค์ประกอบที่ดึงดูดใจ ทำให้หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า และเกิดกระแสการเลียนแบบในกลุ่มเพื่อนอย่างรวดเร็ว จากผลสำรวจ การบริโภคยาสูบในเยาวชนไทยอายุ 13 - 15 ปี ครั้งล่าสุดในปี 2558 สำรวจพบว่าเยาวชนชาย สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงร้อยละ 4.7 และเยาวชนหญิงสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงร้อยละ 1.9 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากความอยากรู้อยากลอง รวมถึงการสร้างค่านิยมวัยรุ่นแบบใหม่ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้พบนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้แม้จะมีรายงานว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไปกว่าร้อยละ 95 แต่ที่จริงแล้วอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้านั้นเทียบเท่ากับการเสพติดนิโคตินที่มีความเข้มข้นกว่าบุหรี่ทั่วไป ซึ่งมีอำนาจเสพติดสูงเทียบเท่าเฮโรอีน สารพิษของบุหรี่ไฟฟ้ามีมากกว่า 250 ชนิด และกว่า 70 ชนิด เป็นสารก่อมะเร็ง และยังมีสารพิษอีกมากที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพ

   ดังนั้นจึงขอเน้นย้ำว่าเด็กและเยาวชนควรตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพเมื่อสูบบุหรี่ และผลกระทบต่อสุขภาพของคนรอบข้าง ที่สำคัญต้องรู้เท่าทันกลยุทธ์ของบริษัทผู้ผลิต หากประชาชนมีความต้องการที่จะเลิกบุหรี่ โทรปรึกษาศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 1600 และมีคลินิกที่ให้บริการเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2580 9237 หรือสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422