นายสนิท แย้มเกษร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ร่วมกับ บริษัท เนสเล่ จำกัด จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการ MILO Sports Development Program in Schools (ไมโล สปอร์ต ดีเวลอปเมนต์ โปรแกรม อิน สคูลซ์) ซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ประกอบด้วยกิจกรรมการอบอุ่นร่างกายผ่านการเต้นแอโรบิก และแอโรบิกมวยไทย / การออกกำลังกายกระโดดเชือก และฟุตบอล ผ่านคำแนะนำของวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ อีกทั้งยังจัดกิจกรรมฝึกสอนฟุตบอลพิเศษสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-6 หรือนักกีฬาของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านความร่วมมือจากอดีตนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยและทีมงานซึ่งมีประสบการณ์ด้านเทคนิคพิเศษฟุตบอล ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุนให้เด็กไทยเติบโตอย่างสมวัยและมีร่างกายที่แข็งแรงผ่านการออกกำลังกายและเล่นกีฬา รวมถึงส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายในเด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 7-12 ปี นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ขณะที่การสอนทักษะและแนะนำเทคนิคการเล่นฟุตบอลให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3-6 ให้ทางโรงเรียนในกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษา มากกว่า 500 คนขึ้นไป รวมนักเรียนคละกันมาตั้งแต่ ประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประมาณ 50 คน หรือระดับชั้นเดียว 50 คน หรือเป็นนักกีฬาโรงเรียนรวมกันมา 50 คน เพื่อเข้ารับการฝึกทักษะและแนะนำเทคนิคการเล่นฟุตบอล
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนในการทำกิจกรรมจะถูกจัดขึ้นอย่างเหมาะสมกับจำนวนนักเรียนและขนาดของโรงเรียน ตามเกณฑ์การคัดเลือก โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก และโรงเรียนที่ห่างไกล ดังนี้ โรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ ต้องมีจำนวนนักเรียน ชั้นประถมศึกษาไม่ต่ำกว่า 500 คน ในกรณีที่โรงเรียนขนาดใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร โรงเรียนจะต้องมีนักเรียนหรือนักกีฬา เข้าร่วมกิจกรรมฝึกทักษะฟุตบอลได้ จำนวน 50 คน จึงจะมีกิจกรรมฝึกสอนฟุตบอลจากอดีตนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยและทีมงานซึ่งมีประสบการณ์ด้านเทคนิคฟุตบอล / โรงเรียนที่มีขนาดเล็ก จะต้องมีจำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษา ไม่ต่ำกว่า 300 คน / โรงเรียนที่ห่างไกล จะต้องมีจำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาไม่ต่ำกว่า 200 คน
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม MILO Sports Development Program in Schools มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมนี้แล้วกว่า 142 โรงเรียน คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมและปลูกจิตสำนึก และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรักการเล่นกีฬา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ