นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัญ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคสุกใส ว่า โรคดังกล่าวเป็นโรคที่พบมากในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของปี กรมควบคุมโรค จึงเฝ้าระวังสถานการณ์โรคสุกใสในประเทศไทย มาตั้งแต่วันที่ 1-29 มกราคม 2561 พบรายงานผู้ป่วยแล้ว 3,858 ราย กลุ่มอายุที่พบป่วยมากที่สุด คือ อายุ 10-14 ปี รองลงมา คือช่วงอายุ 7-9 ปี และ 15-24 ปี และ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ป่วยนักเรียนเป็นกลุ่ม 4 เหตุการณ์ คือ ที่จังหวัดมุกดาหาร 2 เหตุการณ์ มีผู้ป่วย 51 ราย ที่จังหวัดปราจีนบุรี 1 เหตุการณ์ พบผู้ป่วย 50 ราย และปทุมธานี 1 เหตุการณ์ พบผู้ป่วย 66 ราย จากข้อมูลดังกล่าว กรมควบคุมโรคจึงออกพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าจะพบผู้ป่วยโรคสุกใสเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง และอาจพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มในสถานที่ที่อยู่ร่วมกัน เช่น โรงเรียน / โรงงาน / ศูนย์เด็กเล็ก เรือนจำ ทั้งนี้ โรคสุกใสเกิดจากเชื้อไวรัส โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลายผู้ป่วย ติดต่อกันโดยการไอ จาม หายใจรดกัน หรือโดยการสัมผัส การใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย อาการของโรค ในเด็กคือจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในผู้ใหญ่มักมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และมีผื่นขึ้นพร้อมกับวันที่มีไข้ ต่อมาผื่นกระจายไปทั่วตัว บางรายอาจมีตุ่มในปาก ทำให้ปากลิ้นเปื่อย ซึ่งไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แต่ตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆ หายเองใน 1-3 สัปดาห์ กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยหยุดเรียน หยุดงาน พักผ่อนที่บ้าน ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฆ่าเชื้อฟอกผิวหนังให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาตุ่ม หากมีไข้สูงให้กินยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้