นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคข้อเข่านักกระโดด หรือ Jumper knee (จั้มเพอร์ นี)เป็นโรคที่พบได้น้อยกับคนทั่วไปเพราะกิจวัตรประจำวันไม่จำเป็นต้องกระโดดหรือวิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่เป็นประจำ แต่พบบ่อยในกลุ่มนักกีฬา เช่น นักกีฬากระโดดสูง / นักบาสเก็ตบอล / นักวอลเล่ย์บอล / นักกีฬาวิ่งระยะสั้น รวมถึงผู้ที่เล่นกีฬาประเภทวิ่งหรือกระโดดเป็นประจำ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดการกระชากของเส้นเอ็นใต้กระดูกลูกสะบ้าจากการหดตัวของกล้ามเนื้อต้นขาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เส้นเอ็นเกิดการฉีกขาด ในระยะแรกอาจฉีกขาดเล็กน้อยที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นและยังไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บปวด หรือปวดเฉพาะเวลาเดินหรือวิ่งเท่านั้น แต่ถ้ายังทำกิจกรรมเดิมๆ จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการฉีกขาดและเจ็บปวดมากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดอยู่ตลอดเวลา แม้ในเวลานั่งพักเฉยๆ ซึ่งอาการจะต่างจากผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมที่ปวดลึกๆขัดๆ ในข้อเข่า โดยเฉพาะเข่าทางด้านใน และปวดมากเมื่องอเข่า

   นายแพทย์สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า เมื่อมีอาการจากอาการเส้นเอ็นฉีกควรปฐมพยาบาลด้วยการประคบน้ำแข็งประมาณ 5-10 นาที เพื่อลดอาการอักเสบและลดปวด แล้วพักอยู่ในท่าเหยียดเข่าตรง โดยพันผ้าเพื่อประคองข้อเข่าและลดการใช้งานของเส้นเอ็น ที่สำคัญควรพักการทำกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา รวมทั้งอาจต้องทำการรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น การรักษาโดยใช้คลื่นเหนือเสียง หรือ อัลตราซาวนด์ เครื่องเลเซอร์ และการออกกำลังด้วยวิธีต่างๆ โดยนักกายภาพบำบัด เพื่อรักษาจุดที่อักเสบและกระตุ้นให้เส้นเอ็นที่ฉีกขาดนั้นซ่อมแซมตัวเองเร็วขึ้น สำหรับการป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงการวิ่ง ที่ต้องกระโดด หลีกเลี่ยงพื้นที่แข็ง เพื่อลดแรงกระแทกกระดูกที่ข้อเข่า และควรบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ให้แข็งแรงอยู่เสมอ