นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนงานให้เป็นไปตามแผน หรือโครงการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่สอดคล้องกับของคณะสงฆ์รวมถึงเดินหน้าการปฏิรูปไปพร้อมกัน ด้วยการเพิ่มการทำงานเชิงรุกในการดูแลคณะสงฆ์ กิจกรรมของวัดรวมถึงการร่วมมือกับคณะสงฆ์ ในเรื่องเกี่ยวกับพระธรรมวินัยและการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ติดตาม และแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้าไปดูแลปัญหาตั้งแต่ต้นทางการรายงานผลการแก้ปัญหา หารือขอรับการช่วยเหลือจากส่วนกลาง เพื่อให้กิจการด้านพระพุทธศาสนาเป็นไปอย่างถูกต้องทั้งทางโลกและทางพระธรรมวินัย ขณะที่การปฏิรูปที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้นจะต้องมีการสร้างการรับรู้ให้ทั่วถึง และเร่งรัดการดำเนินงาน อาทิ โครงการนำร่องการปรับระบบบัญชีทรัพย์สินและการใช้จ่ายของวัด ที่มหาเถรสมาคม มีมติให้วัด 16 แห่ง จัดทำบัญชีอย่างละเอียด ทั้งการทำบัตรประจำตัวพระสงฆ์แบบสมาร์ทการ์ด การเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูลใหญ่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัด ที่ดิน วัดทรัพย์สินของวัดและคณะสงฆ์ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบส่วนกลาง และแผนการจัดทำฐานข้อมูลรวม หรือ Big Data (บิ๊กเดต้า)ตามนโยบาย ของรัฐบาล

   นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานเชิงรุก ที่จะสามารถขับเคลื่อนออกมาเป็น รูปธรรมได้ นั้น จะเน้นการทำให้วัดดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของคณะสงฆ์ ข้อบังคับและ กฎของมหาเถรสมาคม การสนับสนุนส่งเสริมกิจการของคณะสงฆ์ในต่างจังหวัดทั้งเรื่องของงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาการศึกษาการจัดทำบัญชีทรัพย์สินและการใช้จ่ายของวัด