26-02-2561

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ติดตามการนำร่องการจัดการศึกษา สำหรับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ

   ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวในการลงพื้นที่ติดตามการนำร่องการจัดการศึกษา สำหรับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ เด็กที่ไม่มีทะเบียนราษฎรและไม่มีสัญชาติไทยพร้อมด้วยทีมนักวิชาการจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา โดยกล่าวว่า จากปัญหาการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของประชากรในปัจจุบันเป็นจำนวนมากซึ่งในการย้ายถิ่นฐานแต่ละครั้งมักจะย้ายกันเป็นครอบครัวและมักจะมีบุตรหลานติดตามมาด้วย ทั้งนี้ในประเทศไทยบริเวณที่มีอาณาเขตติดต่อกับชายแดนมักจะมีเด็กและเยาวชนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอาศัย อาทิ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะมีประชากรชาวเมียนมาร์เข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพค้าขายรวมถึงเป็นแรงงาน โดยเด็กชาวต่างชาติที่มาอยู่นั้นสามารถได้รับสิทธิ์ทางการศึกษาได้เช่นเดียวกับเด็กไทยตามสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กซึ่งรวมถึงมาตรฐานทางการศึกษาด้วย

   สำหรับ การลงพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ยัง โรงเรียนแม่ตาวแพะ / โรงเรียนบ้านหัวฝาย / โรงเรียนสรรพวิทยาและเยี่ยมบ้านของนักเรียนชาวเมียนมาร์ที่อำเภอเมียวดีครั้งนี้ได้ทำการสำรวจเด็ก จากประเทศเพื่อนบ้านที่มาอาศัยในประเทศไทยว่าได้รับการศึกษาตามหลักเกณฑ์หรือไม่ นำมาจัดทำหลักเกณฑ์และทำข้อมูลเชิงนโยบายนำเสนอต่อทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อที่จะให้เด็กที่ต้องการศึกษาในประเทศไทยว่าจะต้องมีการปฏิบัติอย่างไรพร้อมกับขอแนวทางการดำเนินการให้มีมาตรฐานต่อไป

   ด้าน นางศศิประภา อินริราย ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่ตาวแพะ กล่าวว่า โรงเรียนแม่ตาวแพะ เป็นโรงเรียนขนาดกลาง สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาตากเขต 2 ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวเมียนมาร์ที่ติดตามพ่อแม่มาและไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ทางโรงเรียนจึงทำการจัดการเรียนการสอนให้แก่กลุ่มเด็กดังกล่าวโดยการจ้างครูผู้ช่วยหรือพี่เลี้ยง ชาวเมียนมาร์ซึ่งสื่อสารได้ทั้ง 2 ภาษา มาเป็นล่ามในการเรียนการสอนวิชาต่างๆเป็นภาษาไทย มีการประเมินการสอบอ่านเป็นระยะผ่านการใช้ชุดข้อสอบจากสำนักงานเขตพื้นที่ และเด็กกลุ่มนี้ยังได้รับการจัดการเรียนการสอนตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย

   ขณะที่ นายวิลลี่ นักเรียนชาวเมียนมาร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสรรพวิทยา กล่าวว่า ได้จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนอาทะกะ 1 อำเภอเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ และตัดสินใจเลือกมาศึกษาต่อในฝั่งประเทศไทยเนื่องจากอยากที่จะเรียนรู้ด้านภาษาไทยเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าเพราะการมีความรู้ที่หลากหลายด้านภาษาจะเป็นประโยชน์ในปัจจุบัน พร้อมกับจะได้ใช้สำหรับไว้ประกอบอาชีพในด้านธุรกิจที่มีความสนใจ โดยตั้งใจว่าจะศึกษาต่อในประเทศไทยให้จบในระดับปริญญาตรีเนื่องจากทราบว่าการจัดการศึกษามีคุณภาพ

 

   ทั้งนี้ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ให้การสนับสนุน อย่างเต็มที่ของการศึกษาของเด็กกลุ่มเด็กที่ไม่มีทะเบียนราษฎรและไม่มีสัญชาติไทย เนื่องจากจะเป็นการพัฒนาเด็กไม่มีคุณภาพรวมถึงจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านการส่งเสริมให้เด็กกลุ่มนี้ มีการทำงานในประเทศไทยด้วย