นายสันติ ต่วนชะเอม ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน กศน.จังหวัดสิงห์บุรีได้จัดโครงการอบรมวิทยากรแกนนำ “ครู ข” “ครู ค” หลักสูตร Digital Literacy (ดิจิทัล ลิทเทอเรซี่) และ E-Commerce พร้อมสร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก เน็ตประชารัฐ ขึ้น ด้วยบทบาทของเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาที่มีความสำคัญขึ้นเป็นอย่างมากในการจัดการศึกษาในยุคปัจจุบัน ทั้งในบทบาทด้านการบริหาร ด้านวิชาการ และด้านการบริการ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การจัดการศึกษาในยุคนี้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ประกอบกับโครงการนี้เป็นนโยบายระดับประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรู้หนังสือของประชาชนในสังคมยุคดิจิทัล เพื่อนำทักษะการเรียนรู้ที่เท่าทันยุคสมัยมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี และนโยบาย Thailand 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในทุกระดับ เพื่อปรับเปลี่ยนคนไทยให้เป็น คนไทย 4.0 ที่มีความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เชิงนวัตกรรม และทักษะอาชีพที่สูงขึ้นมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย และมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สมัยใหม่ ที่เรียกว่า Digital literacy ซึ่งมีประโยชน์ต่อนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่หลายประการด้วยกัน คือ โครงการดังกล่าวเป็นข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ บริษัท โทเทิล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด มหาชน ที่จะร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของประเทศในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งสำนักงาน กศน. มีหน่วยงานกระจายอยู่ในพื้นที่ทุกตำบล / ประการที่สอง เป็นการพัฒนาบุคลากร ของ กศน.ตำบล ให้สามารถเป็นวิทยากรหรือผู้อำนวยให้เกิดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลของประชาชนผ่านศูนย์ดิจิทัลชุมชน / กศน.ตำบล ซึ่ง ครู กศน. จะต้องนำไปขยายผลในระดับตำบล อย่างน้อย 2 กลุ่ม กลุ่มละไม่ต่ำกว่า 16 คน ในหลักสูตร Digital Literacy และหลักสูตร E-Commerce ซึ่งหลังจากอบรมวิทยากรแกนนำเสร็จเรียบร้อย กศน.ตำบล จะดำเนินการอบรมประชาชนในพื้นที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงาน กศน.ทราบ และประการสุดท้าย ยังเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และสามารถด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเน็ตประชารัฐ ให้แก่ประชาชน อย่างครอบคลุม ทั่วถึงและมีประโยชน์ต่อชุมชนมากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้ สำนักงาน กศน.จังหวัดสิงห์บุรี ในฐานะผู้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติจะทำออกมาให้ดีที่สุด