18-06-2561

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ขับขี่เรียนรู้ข้อควรปฏิบัติในการขับรถบนทางด่วน

   นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอันตรายจากการขับรถ บนทางด่วน โดยก่อนเดินทางควรวางแผนและศึกษาสภาพเส้นทางโดยเฉพาะจุดขึ้น – ลงทางด่วน จดจำหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน สำหรับใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสีย บนทางด่วน ขณะเดินทาง หมั่นสังเกตเครื่องหมายจราจร โดยเฉพาะป้ายเตือน ป้ายบอกทาง ป้ายจำกัดความเร็ว พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทางขึ้น – ลงทางด่วน ทางเบี่ยง ทางแยกรูปตัว Y เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ใช้ความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วที่กำหนด โดยไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง ไม่เปลี่ยนช่องทางหรือแซงในระยะกระชั้นชิด พร้อมให้สัญญาณไฟล่วงหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง ไม่ขับรถช้าในช่องทางขวา เพราะเป็นช่องทางสำหรับรถที่ใช้ความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ขับแซง ในช่องทางซ้ายหรือไหล่ทาง ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เพราะทำให้ไม่มีสมาธิในการขับรถ ไม่หยุดหรือจอดรถบนทางด่วน หากจำเป็นให้นำรถจอดบริเวณจุดพักรถที่กำหนด กรณีรถเสียหรือขัดข้อง นำรถจอดริมขอบทางด้านซ้าย พร้อมเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและนำป้ายสามเหลี่ยม วัสดุสะท้อนแสง หรือวัสดุอื่นๆ มาวางให้ห่างจากจุดที่จอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ควบคุมทางด่วน หมายเลขโทรศัพท์ 0 2664 6400 หรือศูนย์บริการผู้ใช้ทางด่วนพิเศษ หมายเลข 1543 เพื่อประสานนำรถลงจากทางด่วน กรณีพบเห็นรถประสบอุบัติเหตุ ขับรถผ่านจุดเกิดเหตุด้วยความระมัดระวัง โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด หากจำเป็นต้องหยุดรถ ให้เปิดไฟกะพริบ เพื่อเตือน ให้ผู้ขับรถคันอื่นทราบว่า มีเหตุฉุกเฉินบนเส้นทางจะได้เพิ่มความระมัดระวัง

   ทั้งนี้ การขับรถบนทางด่วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ในลักษณะรุนแรง เนื่องจาก เป็นเส้นทางตรงในระยะยาวที่มีระดับความสูงกว่าถนนทั่วไป อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง เมื่อประสบอุบัติเหตุ จึงมีความเสี่ยงที่รถจะตกลงมายังพื้นถนนด้านล่าง ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่ม มากขึ้น