20-06-2561

รัฐบาล เตือนแรงงานต่างด้าวเร่งพิสูจน์สัญชาติและขออนุญาตทำงานทุกขั้นตอนภายใน 30 มิถุนายน 2561

   พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานความคืบหน้าการพิสูจน์สัญชาติ การจัดทำและปรับปรุงทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ระยะที่ 2 ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จทั่วประเทศ โดยล่าสุด แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาได้รับการพิสูจน์สัญชาติครบถ้วนแล้ว ยังเหลือแรงงานชาวกัมพูชาและลาวที่ต้องเข้ารับ การพิสูจน์สัญชาติอีก ส่วนการจัดทำและปรับปรุงทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว ตรวจลงตราวีซ่า และ ขออนุญาตทำงาน ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ระยะที่ 2 นั้น มีแรงงานที่คงเหลือจะต้องเข้าศูนย์ฯ อีกประมาณ 59,000 คน พร้อมขอบคุณทางการเมียนมาและนายจ้างของแรงงานต่างด้าวเมียนมาที่ได้ดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแล้วเสร็จก่อนกำหนดที่ตั้งไว้ และขอความร่วมมือส่วนที่เหลือให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งการพิสูจน์สัญชาติและขั้นตอนอื่น ๆ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น เพื่อประโยชน์ของ ทั้งตัวแรงงานเองและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวโดยรวม

   นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ไม่ควรรอจนถึงวันสุดท้ายเพราะอาจไม่ทันเวลาหรือไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หากมีผู้ไปติดต่อจำนวนมาก และรัฐบาลจะไม่มีการผ่อนปรน หรือขยายเวลาอย่างแน่นอน หากพ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2561 แล้วยังไม่ไปดำเนินการ แรงงานต่างด้าวจะไม่สามารถอยู่และทำงานต่อไปได้ จะต้องกลับประเทศต้นทางและกลับเข้ามาใหม่ในรูปแบบการนำเข้าแรงงานตามระบบ MOU โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่จะระดมกวาดล้างผู้กระทำผิดกฎหมายครั้งใหญ่ หากพบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้วจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี ส่วนนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษปรับ 1 หมื่น – 1 แสน บาทต่อแรงงานต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5 หมื่น - 2แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี