25-06-2561

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินหน้าปรับโครงสร้างภายใน รองรับกระทรวงใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น

   ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า แผนการจัดตั้งกระทรวงใหม่ ซึ่งเบื้องต้นใช้ชื่อว่ากระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรมนั้น โครงสร้างกระทรวงใหม่จะประกอบไปด้วย 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจะทำเรื่องนโยบาย ยุทธศาสตร์ รวมถึงการให้ทุนวิจัยทำหน้าที่กำกับหน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงใหม่ ในเรื่องการทำวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นภาพรวมของประเทศ กลุ่มที่ 2 ทำโครงการขนาดใหญ่ที่วิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์เชิงลึกเชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยทำวิจัยเชิงพื้นที่                       

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวต่อไปว่า การจัดทำ พรบ.ใหม่ จะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม และนำสนอคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดจะเสร็จก่อนการเลือกตั้งแน่นอน โดยเนื้อหา พรบ.ใหม่จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกคือการปรับโครงสร้างหน่วยงาน และส่วนที่สองคือการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบทั้งระบบอุดมศึกษา ระบบวิจัยและระบบนวัตกรรม ส่วนที่ 3 คือการพัฒนากลไกขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างไรก็ดียืนยันว่าจะต้องมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่ขึ้นอย่างแน่นอน และอยากให้กระทรวงที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้เสร็จสมบูรณ์ได้ภายในสองปี

    ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติหรือ สวทช. กล่าวว่า การปรับเปลี่ยน สวทช.รวมถึงหน่วยงานอื่นๆในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปสู่ TASI นั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมีระบบการทำงานรูปแบบใหม่ สามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจต่างๆ ได้ดี โดย TASI จะยังคงบทบาทของการเป็นองค์กรอิสระหรือองค์การมหาชนในรูปแบบหนึ่งเหมือนเดิม ทั้งนี้ภายใต้ พรบ.เดิมที่ สวทช.มีอยู่ คาดว่าการโอนย้ายโครงการต่าง ๆ เช่น TED Fund ฟู้ดอินโนโพลิส อุทยานวิทย์ฯภูมิภาค รวมถึงห้องเรียนวิทยาศาสตร์ น่าจะดำเนินการได้ภายใน 3 เดือน               

   นอกจากนี้จะมีการรวมหน่วยงานที่ทำวิจัยด้านต่าง ๆ ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาไว้ที่ TASI เช่น สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ รวมถึงสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะอยู่ในรูปแบบใด