26-06-2561

กระทรวงคมนาคม กำชับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เร่งเจรจาภาคเอกชนที่ติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ

   นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวชี้แจงถึงกรณีมีหลายฝ่ายแสดงความกังวล โดยกล่าวว่า ระบบตั๋วร่วม หรือ “บัตรแมงมุม” ที่กระทรวงคมนาคม ได้เริ่มทยอยแจกบัตรให้กับประชาชนจำนวน 200,000 ใบ เพื่อใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพียงบัตรใบเดียว            โดยนำร่องให้บริการบนรถไฟฟ้า MRT (เอ็มอาร์ที) สายสีม่วง และสีน้ำเงิน ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 และตั้งเป้าจะให้บริการกับรถโดยสาร ขสมก. ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 แต่พบปัญหาว่า ขณะนี้ ขสมก. ยังไม่มีความพร้อมอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ทัน เนื่องจากติดปัญหาเครื่องอ่านบัตรค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ หรือ E-ticket และเครื่องหยอดเหรียญเก็บค่าโดยสาร หรือ Cashbox ที่ติดตั้งบนรถ 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท บริษัท ช ทวี จำกัด มหาชน ยังไม่สามารถส่งมอบได้ตามแผน เพราะต้องรอหนังสือตอบกลับจากกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการยกเลิกสัญญาบางส่วน หลังจากที่ Cashbox ใช้การไม่ได้ รวมทั้งปัญหาด้านเทคนิค ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบตั๋วร่วมของรัฐบาลได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขสมก.           จะเชิญบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) มาเจรจาเพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงระบบให้สามารถรองรับบัตรแมงมุม ตามมาตรฐานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ให้แล้วเสร็จ และสามารถใช้งานได้ภายในเดือนตุลาคม 2561 ส่วนการติดตั้งระบบ Cash Box จะทำการยกเลิกและแก้ไขสัญญาฯ รวมทั้งปรับลดวงเงินค่าเช่ากับบริษัทฯ ให้คงเหลือค่าเช่าเฉพาะระบบ E-ticket ตามมาตรฐานระบบบัตรแมงมุมของ รฟม. เท่านั้น ส่วนปัญหาทางด้านเทคนิค เบื้องต้น ขสมก. ได้มอบหมายให้บริษัท ช ทวี จำกัด ประสานกับ          รฟม.  เพื่อพิจารณารายละเอียดทางด้านเทคนิค ในการเร่งรัดปรับปรุงระบบ E-ticket ให้เป็นไปตามมาตรฐานระบบของ รฟม. อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันการใช้งานในเดือนตุลาคม 2561 ขสมก. จะพิจารณาร่วมกับ รฟม. เพื่อเตรียมการนำระบบ E-ticket ที่ใช้เครื่องอ่านบัตรแบบมือถือ มาใช้บนรถโดยสารไปก่อน จนกว่าจะสามารถดำเนินการปรับปรุงระบบแล้วเสร็จ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่จะใช้บัตรแมงมุม