31-07-2561

กรมควบคุมโรค ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์ตับอักเสบโลก ชวนคนไทยตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี

   นายแพทย์ สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับโรคไวรัสตับอักเสบ เนื่องจากเป็นสาเหตุของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย โดยทั่วไปไวรัสตับอักเสบมี 5 ชนิด ได้แก่ ชนิด เอ บี ซี ดี และอี แต่ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในไทยคือไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินนโยบายเพื่อป้องกันควบคุมโรคไวรัสตับอักเสบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ ลดการป่วยตาย และลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งตับผ่านมาตรการต่างๆ อย่างบูรณาการ สำหรับโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ประเทศไทยได้ดำเนินการป้องกัน ควบคุมและดูแลรักษาอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2556 โดยในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่าย พยายามจัดหายากลุ่ม Direct Acting Antivirals หรือ DAAs ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิผลรักษาโรคให้หายขาดสูงมากกว่าร้อยละ 90 มีผลข้างเคียงจากยาต่ำ ใช้เวลารักษาประมาณ 12 สัปดาห์ และในปี 2561 นี้ คณะกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้บรรจุยาบางชนิดในกลุ่ม DAAs สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซี ไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ

   สำหรับสัปดาห์รณรงค์ตับอักเสบโลก ประจำปี 2561 นี้ คำขวัญ คือ “ตรวจเร็ว รักษาได้ ห่างไกลมะเร็งตับ” และขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 2561 ณ โรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 83 แห่ง ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

   ด้าน รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีอุบัติการณ์การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีประมาณร้อยละ 5-8 และไวรัสตับอักเสบซีประมาณร้อยละ 1-2 พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ทั้งนี้ องค์กรอนามัยโลกได้กำหนดนโยบายให้ทุกประเทศในโลกร่วมมือกันกำจัดไวรัสให้สิ้นซากในปี ค.ศ.2030 หรือ พ.ศ.2573 ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามให้ความร่วมมือดังกล่าว แต่ปัญหาที่ทั่วโลกต้องเจอคือประชากรไม่ทราบว่าตัวเองเป็นหรือติดเชื้อ เนื่องจากการติดเชื้อเหล่านี้ไม่มีอาการ เช่นเดียวกับในประเทศไทย ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไม่ได้ตระหนักว่าตนเองเป็น จึงเป็นต้นเหตุของการแพร่เชื้อ เป็นสาเหตุให้ในปัจจุบันอัตราตายสูงสุดของประเทศไทย คือ มะเร็ง โดยในเพศชายมะเร็งตับพบเป็นอันดับที่ 1 เพศหญิงพบเป็นอันดับที่ 3 แต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบมะเร็งตับมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของทั้งหญิงและชาย โดยหลายคนไม่เคยรู้ตัวว่าตนเองมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ในร่างกาย จึงจำเป็นที่ต้องคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่ได้รับเลือดก่อนปี 2535 ผู้มีประวัติตับอักเสบ ผู้ที่มีประวัติในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ หรือมีอายุสั้น จากการตายด้วยมะเร็งตับ ผู้ที่มีการปนเปื้อนเลือดหรือผลิตภัณฑ์ของเลือด เช่น การสัก การเจาะ หญิงตั้งครรภ์ทุกคน ผู้ที่ใช้สารเสพติด เป็นต้น เมื่อทราบว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง จะได้เข้าสู่ขบวนการรักษา ซึ่งรัฐบาลให้การรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในทุกกองทุน หากทุกคนตระหนักและคัดกรองอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบว่าติดเชื้อก็เข้าสู่การรักษาอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถบรรลุจุดประสงค์ของการกำจัดไวรัสตับอักเสบ ให้หมดไปในอีก 12 ปีข้างหน้า