25-09-2561

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินหน้าโครงการความร่วมมือศึกษาวิจัยดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ขั้วโลก

   รองศาสตราจารย์ บุญรักษา สุนทรธรรม ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือศึกษาวิจัยดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ขั้วโลก เริ่มต้นในปี 2556 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประเทศไทยศึกษาวิจัยดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์บรรยากาศบริเวณขั้วโลกร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และมอบหมายให้สถาบันวิจัย ดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. ประสานงานโครงการดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่ง วันที่ 6 เมษายน 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม เสด็จเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สดร. กับสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์เพื่อศึกษาวิจัยขั้วโลกใต้ อย่างเป็นทางการในปีเดียวกันสำหรับขั้วโลกใต้เป็นพื้นที่ที่ท้าทายทั้งสภาพอากาศและภูมิประเทศ เป็นโจทย์ยากที่นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ ตามเป้าหมายของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ที่มุ่งพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศอีกด้วย

   ด้านรองศาสตราจารย์ ดร. สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการวิจัยการสำรวจตัดข้ามละติจูด เป็นความร่วมมือระหว่าง สดร. และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่งข้อเสนอต่อสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีนในปี 2561 เพื่อศึกษาผลกระทบของรังสีคอสมิกต่อโลก และได้รับอนุมัติให้นำ ตู้คอนเทนเนอร์ติดตั้งบนเรือสำรวจวิจัย “เชว่หลง" หรือ “เรือมังกรหิมะ” ออกเดินทางเก็บข้อมูลจากเมือง เซี่ยงไฮ้ สาธาณรัฐประชาชนจีน ไปยังสถานีวิจัยจงซาน ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา

   ทั้งนี้ตู้คอนเทนเนอร์ติดตั้งเครื่องตรวจวัดนิวตรอนเพื่อใช้ในการวิจัยชื่อว่า “ช้างแวน” (Changvan) ได้รับความร่วมมือจากอีกหลายหน่วยงานทั้งภายในและนอกประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ และมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ริเวอร์ฟอลส์ สหรัฐอเมริกา รวมทั้งมหาวิทยาลัยชินชู ประเทศญี่ปุ่น ภายในติดตั้งเครื่องตรวจวัดนิวตรอน มีระบบควบคุมอุณภูมิภายในให้คงที่ และห้องควบคุมที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้ร่วมมือกับ สดร. พัฒนาความรู้ความสามารถของคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยระดับโลก

   ขณะที่ ดร. วราภรณ์ นันทิยกุล หัวหน้าโครงการวิจัยการสำรวจตัดข้ามละติจูด กล่าวว่า ความคาดหวัง ของการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือ ผลลัพธ์ที่เป็นองค์ความรู้ใหม่ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ โครงการนี้มีแผนดำเนินการเก็บข้อมูลและศึกษาสเปกตรัมของรังสีคอสมิกในช่วงกว้างของค่าความแข็งแกร่งตัดที่เรือตัดน้ำแข็งเคลื่อนที่ผ่านในปี 2561-2562 ผลการวิจัยครั้งนี้จะนำมาเปรียบเทียบและยืนยันกับผลวิจัยครั้งก่อนหน้านี้ที่ได้สำรวจในลักษณะเดียวกัน จะทำให้เข้าใจสนามแม่เหล็กโลกที่เชื่อมโยงกับสภาพอวกาศได้มากขึ้น

   นอกจากนี้ ยังคาดหวังให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุก ปี เนื่องจากต้องสังเกตการณ์จุดมืดบนดวงอาทิตย์ ซึ่งมีวัฏจักรประมาณ 11 ปี และขั้วสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ที่มีวัฏจักรประมาณ 22 ปี หากสร้างเครือข่ายในระดับสากลกับกลุ่มวิจัยที่จัดหาเรือตัดน้ำแข็งได้ ก็จะสร้างผลงานวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษา การเปลี่ยนแปลงของจุดมืดบนดวงอาทิตย์และการเปลี่ยนขั้วของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ของหัววัดนิวตรอนจากอวกาศควบคู่กันไป หากทำสำเร็จกลุ่มวิจัยวางแผนนำมาใช้จริงในการสำรวจครั้งถัดไปอีกด้วย

   ด้าน นายพงษ์พิจิตร ชวนรักษาสัตย์ หนึ่งเดียวของนักดาราศาสตร์ไทย จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ผู้ร่วมเดินทางไปขั้วโลกใต้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เดินทางไปกลุ่มวิจัยขั้วโลก ในครั้งนี้ นอกจากจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ยังเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกที่มีศักยภาพ และในอนาคตอาจเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยได้ร่วมเดินทางไปแอนตาร์กติกากับทีมสำรวจ รวมถึงได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาวิจัยอีกด้วย

   อย่างไรก็ดีโครงการฯ มีกำหนดส่งคอนเทนเนอร์ช้างแวนที่เสร็จสมบูรณ์ไปยังเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 ส่วนเรือสำรวจวิจัยมีกำหนดเดินทางออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้ สาธาณรัฐประชาชนจีนไปยังทวีปแอนตาร์กติกา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 และจะเดินทางกลับสู่เมืองเซี่ยงไฮ้อีกครั้งในวันที่ 10 เมษายน 2562 รวมระยะเวลาการเดินทางทั้งหมด 5 เดือน