12-10-2561

ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อนุมัติหลักเกณฑ์การรับนักเรียนปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสอบก่อน

   นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. โดยมีการแก้ไขปัญหาสำคัญ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกการขยายจำนวนการรับเด็กต่อห้อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากเดิมกำหนดให้รับนักเรียนได้ห้องละ 40 คน เปิดโอกาสให้ขยายได้ไม่เกิน 5 คนต่อห้อง โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียน เพื่อให้สถานศึกษามีอำนาจอนุมัติเบ็ดเสร็จภายในสถานศึกษาเอง ส่วนจำนวนรับนักเรียนชั้นก่อนประถมศึกษา ให้คงไว้ห้องละ 30 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้คงไว้ห้องละ 40 คน เท่าเดิม เนื่องจากจำนวนเด็กเข้าเรียนน้อยลง

  ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่สอง คือ ที่ผ่านเด็กที่มาสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง โดยเฉพาะโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งสอบพร้อมกับโรงเรียนทั่วประเทศ ทำให้เด็กที่สอบพลาดจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีโอกาสในการไปเรียนที่อื่นได้ยาก เนื่องจากโรงเรียนทั่วไปรับเด็กเต็มหมดแล้ว แม้จะเป็นโรงเรียนเดิมของเด็กก็ตาม ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ดำเนินการสอบคัดเลือกก่อนโรงเรียนทั่วไป เพราะหากพลาดจะได้มีโอกาสไปสอบเข้าโรงเรียนอื่นได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการอภิปรายว่า อยากให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงทั้ง 282 แห่ง สอบก่อน แต่ที่ประชุมเห็นว่า ในปีการศึกษา2562 ควรเริ่มที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาโรงเรียนเดียว

   นอกจากนี้ในส่วนของปฏิทินการสอบ ที่ประชุมเห็นว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยับช่วงเวลาการ รับนักเรียนจากที่แล้วเสร็จประมาณปลายเดือนมีนาคม มาเป็นภายในเดือนมกราคม เพื่อให้ผู้ปกครองที่ลูกหลานยังไม่มีที่เรียนได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมหาที่เรียนให้ลูกได้มากขึ้น ก่อนที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. แจ้งว่า สามารถขยับปฏิทินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ตได้ โดยอาจจะต้องเลื่อนการสอบให้เร็วขึ้นอีก 2 เดือน

   สำหรับสัดส่วนการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน กับ การสอบคัดเลือก ให้คงไว้ที่ 60 ต่อ 40 ตามเดิม โดยได้มอบหมายให้ สพฐ. ไปคิดวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เด็กทั้งประเทศได้มีโอกาสเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพสูงเท่าโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ควรมีการสร้างคุณภาพสถานศึกษาที่เป็นแม่เหล็กให้ครบทุกอำเภอ โดยอย่างน้อยควรมีโรงเรียนคุณภาพสูงทั่วประเทศ 1,200 โรงเรียน เพื่อให้เด็กเรียนในพื้นที่ ไม่ต้องย้ายเข้ามาเรียนในอำเภอ หรือจังหวัด ซึ่งส่วนตัวแล้วอยากให้ดำเนินการให้สำเร็จ ภายในวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานชุดนี้ ที่เหลือเวลาอีก 3 ปี