09-01-2562

กรมควบคุมโรค เตือนระวังอันตรายจากลูกโป่งอัดไฮโดรเจน พร้อมแนะวิธีลดความเสี่ยง จากการใช้ลูกโป่ง

   นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีเหตุการณ์ลูกโป่งอัดแก๊สระเบิดในรถ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ตามร่างกาย โดยกล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีการเสียบโทรศัพท์มือถือในรถและมีลูกโป่งอยู่ภายในรถด้วย ซึ่งอาจเป็นลูกโป่งที่บรรจุด้วยแก๊สไฮโดรเจน ซึ่งเป็นแก๊สที่ไวต่อประกายไฟ โดยลูกโป่งอาจจะรั่ว ทำให้กลุ่มแก็สลอยอยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ เมื่อดึงสายชาร์จอาจทำให้สปาร์คและเกิดการระเบิดได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีเหตุระเบิดจากลูกโป่ง อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากแก๊สที่บรรจุเข้าไปในลูกโป่งคือแก๊สไฮโดรเจน ที่ไวไฟ สำหรับลูกโป่งที่ขายในประเทศไทยโดยทั่วไป พบบรรจุแก๊สอยู่ 2 ชนิด คือ ไฮโดรเจน และฮีเลียม โดยความแตกต่างของแก๊สทั้ง 2 ชนิดนี้ คือ แก๊สไฮโดรเจนมีความไวไฟสูง ส่วนแก๊สฮีเลียม เป็นแก๊สเฉื่อย ไม่ติดไฟ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้ แก๊สไฮโดรเจน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการบรรจุและควรมีการติดป้ายเตือนทุกครั้ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประกาศให้ลูกโป่งบรรจุแก๊สไฮโดรเจนเป็นสินค้าควบคุมฉลาก ผู้จำหน่ายต้องติดคำเตือน “ห้ามนำเข้าใกล้เปลวไฟหรือความร้อน”

   ทั้งนี้ ในส่วนของกรมควบคุมโรค ขอแนะนำประชาชนกรณีต้องใช้ลูกโป่งประดับสถานีที่หรืองานเลี้ยงต่างๆ โดยเฉพาะในงานวันเด็กที่กำลังจะมาถึง ด้วย 3 วิธี เพื่อลดความเสี่ยงได้รับอันตรายจากลูกโป่งแตก คือ ควรเลือกลูกโป่งที่บรรจุด้วยแก๊สฮีเลียม แม้ราคาแพงกว่าแต่ปลอดภัยกว่า ไม่ควรเก็บลูกโป่งที่อัดแก๊สไว้ภายในรถ ในที่อุณหภูมิสูง กลางแดด ใกล้หลอดไฟ ใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน และไม่ควรนำลูกโป่งมามัดรวมกันหลายลูก อาจทำให้เกิดการเสียดสีและทำให้ระเบิดได้

   นอกจากนี้ในส่วนผู้จัดงาน หากประดับตกแต่งลูกโป่งภายในงานต่างๆ จะต้องจัดวางไว้ให้พ้นจากมือเด็ก ถ้าลูกโป่งแตกควรเก็บเศษไปทิ้งถังขยะทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหยิบเศษลูกโป่งมาอมหรือกัดเล่น เพราะอาจลื่นเข้าไปในลำคอจนอุดทางเดินหายใจได้