ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ภาครัฐสนับสนุนให้มีการสร้างงานวิจัยอย่างต่อเนื่องและได้พยายามอย่างมากที่จะผลักดันให้มีการนำผลงานวิจัยที่มีศักยภาพไปใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แต่ที่ผ่านมามีการนำผลงานวิจัยไปต่อยอดใช้ประโยชน์และสร้างผลกระทบกับประชาชนน้อยมาก ซึ่งอาจมี สาเหตุมาจากศักยภาพของงานวิจัยเอง องค์ความรู้ที่ยังไม่เอื้อสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ หรือไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ แม้กระทั่งขาดกระบวนการสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อนำงานวิจัยนั้น ๆ ไปใช้งานจริง

   ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการสร้างมูลค่างานวิจัย สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์หรือโครงการปั้นดาว ถือเป็นการทำงานที่มุ่งให้เกิดผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้นในการผลักดันให้งานวิจัย “จากหิ้งสู่ห้าง” เพื่อไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และจะเป็นกลไกในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการทำงานวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศ 11 ศูนย์ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. ซึ่งมีการทำงานในรูปของเครือข่ายความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาแบบข้ามสถาบันของสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำกว่า 25 แห่งทั่วประเทศ และทำหน้าที่เป็นหัวจักรด้านการวิจัยและพัฒนาในภาพรวม ให้สามารถต่อยอดและส่งต่อผลลัพธ์ไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็ว

   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ โครงการปั้นดาว ภายใต้แนวคิดจากงานวิจัยชั้นเลิศสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ จะมีกระบวนการคัดกรอง งานวิจัยอย่างเข้มข้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ได้โครงการวิจัยที่มีศักยภาพจากศูนย์ความเป็นเลิศและหน่วยวิจัย ทั่วประเทศ จำนวน 10-15 โครงการ แล้วส่งต่อให้โค้ช ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ในการเป็นพี่เลี้ยงผลักดันให้งานวิจัยออกสู่ภาคการผลิตและบริการได้อย่างเป็นระบบ โดยมีงบประมาณสนับสนุนจำนวน 80 ล้านบาท ภายในกรอบระยะเวลาทำงาน 12 เดือน ”