27-02-2562

สวทช. สนับสนุนเอกชนใช้เทคโนโลยี ปรับกระบวนการผลิตไม้แปรรูปเพิ่มคุณภาพสินค้า เจาะโมเดิร์นเทรด มุ่งสู่ ‘กรีนอินดัสทรี’

   นายสิทธิเทพ นราทอง กรรมการบริษัท นราทองพลัส จำกัด เปิดเผยภายหลังรับรางวัล "วิทย์สรรค์ นวัตกรรมสร้าง ด้ามขวานไทย" ที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติหรือ สวทช. มอบให้แก่บุคคลที่นำความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปถ่ายทอดสู่ชุมชนหรือภาคเอกชน สร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สังคม ในงานประชุมและแสดงนิทรรศการผลงานวิจัย สวทช. – วิทย์สัญจร “วิจัยเข้มแข็ง เสริมแกร่งภูมิภาค” จ.สงขลา โดยกล่าวว่า บริษัท นราทองพลัสฯ ประกอบกิจการวัสดุก่อสร้างมานาน ซึ่งที่ผ่านมาการส่งสินค้าไม้แปรรูปทั้งบานประตู หน้าต่างไปยังลูกค้ามักจะมีการส่งคืนเพื่อเคลมสินค้า 2-3 ชิ้น หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 5 เนื่องจาก เมื่อเก็บไว้สักระยะหนึ่งความชื้นที่มีในเนื้อไม้จะทำให้เกิดรอยแยกรอยแตก

   นายสิทธิเทพ กล่าวว่า ได้ศึกษาข้อมูลการแก้ปัญหาโดยติดต่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คำรณ พิทักษ์ ผู้จัดการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP เครือข่ายมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ให้คำแนะนำว่าควรใช้องค์ความรู้เรื่องเตาอบ เพื่อดึงความชื้นในเนื้อไม้ออก โดย ITAP ได้นำผู้เชี่ยวชาญ คือ รองศาสตราจารย์ ทรงกลด จารุสมบัติ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการด้านยางพารา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาให้ความรู้และสอนการใช้เตาอบแปรรูปไม้ ทำให้โรงงานสามารถใช้เทคโนโลยีเตาอบเพื่อดึงความชื้นออกจากเนื้อไม้ได้ดีขึ้น สามารถควบคุมความชื้นในเนื้อไม้เพื่อให้ความเสถียรของเนื้อไม้ดีขึ้น ซึ่งหลังจากทำได้สำเร็จแล้ว บริษัทฯ ส่งสินค้าที่ผ่านการใช้เตาอบไปยังลูกค้า พบว่าสามารถลดจำนวนการส่งคืนสินค้า หรือหากมีก็เหลือเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับไม้แต่ละชนิดด้วย

   สำหรับขั้นตอนการอบไม้นั้น เพียงเรียงไม้เข้าในเตาอบ โดยการเว้นช่องให้ความร้อนกระจายไปทั่วผืนไม้ ซึ่งด้านบนสุดของแผ่นไม้จะมีการวางทับเพื่อป้องกันการดีดตัวของไม้ ภายใต้เตาอบนั้นมีการไหลเวียนของทิศทางลมเพื่อให้ความร้อนในเตากระจายตัวได้ทั่วแผ่นไม้ ส่วนความชื้นที่ถูกดึงออกนั้นผู้ใช้เตาอบสามารถสังเกตจากกระเปาะเปียก กระเปาะแห้ง ที่บริเวณหน้าตู้ได้ว่าความชื้นจากตัวไม้ออกสู่อากาศหมดหรือไม่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน จากนั้นนำออกมาจากเตาอบเพื่อให้ไม้มีการเซทตัว ไม่หดตัวและมีความแข็งแรงมากขึ้น ไม่แตกหรือไม่มีรอยแยกง่ายเหมือนการอบแบบเดิม ดังนั้นการนำไม้เข้าเตาอบเพื่อไล่ความชื้น ไม้จะมีคุณภาพแข็งแรงและทนทาน ไม่โก่งงอ ลดปัญหาการคืนสินค้าจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ต่อยอดจากเทคโนโลยีเตาอบฯ ของ ITAP สวทช. โดยการเพิ่มเทคโนโลยีระบบพัฒนากระบวนการการลดเขม่าควันด้วย Wet Scrubber ( เวท สครับเบอร์) เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีเตาอบด้วย ซึ่งช่วยกรองเขม่าควันไม่ให้เกิดปัญหากับชุมชนโดยรอบ และยังเป็นการป้องกันฝุ่นในโรงงานให้กับพนักงาน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีในโรงงาน

   กรรมการบริษัท นราทองพลัส จำกัด กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ ยังร่วมใช้เทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ การพัฒนาระบบอัตโนมัติการผลิตประตูโดยใช้สายพานลำเลียง เพื่อลดอันตรายและสร้างความปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้แรงงานคนแบกประตูบานใหญ่เหมือนเดิม โดยนำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ในการตรวจเช็กตำแหน่ง ของบานประตู เพื่อให้แรงงานคนสามารถประกอบอุปกรณ์ชิ้นส่วนของบานประตูได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งนี้การเข้าร่วมโครงการของ ITAP สวทช. หลายโครงการที่ผ่านมา ถือว่าช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการพัฒนาเครื่องจักรเดิม และเพิ่มเครื่องจักรใหม่ ช่วยให้กระบวนการผลิต เกิดประสิทธิภาพสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ เช่น ประตูรูปแบบที่ต่างไปจากที่มีอยู่เดิม สามารถส่งสินค้าไปยังกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ โมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ทั้งโฮมโปร (Home Pro) เมกา โฮม (Mega Home) อีกทั้งบริษัทฯ ยังใส่ใจแก้ปัญหาและป้องกันมลพิษที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ระดับ 2 : ปฏิบัติการสีเขียว จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมอบให้กับองค์กรที่จัดทำแผนงานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือการป้องกันมลพิษ ขณะนี้บริษัทฯ เตรียมแผนเพื่อมุ่งสู่ Green Industry ระดับ3 : ระบบสีเขียวต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง

   สำหรับรางวัล "วิทย์สรรค์ นวัตกรรมสร้าง ด้ามขวานไทย" ซึ่ง สวทช. มอบให้ นายสิทธิเทพ กล่าวว่า ถือเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในโรงงานทุกคน ที่จะมุ่งมั่นนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้พัฒนาสินค้าให้ธุรกิจมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน โดยไม่ลืมที่จะใส่ใจสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป