26-04-2562

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับ เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม

   นายแพทย์วิวัฒน์ โรจนพิทยากร คณะกรรมการบริหารแผนส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ประเทศไทยติดอันดับการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย เทียบเท่าฟินแลนส์ และนอร์เวย์ แต่ NCDs ยังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย สูญเสียรายจ่ายทางสุขภาพกว่า 99,000 ล้านบาทต่อปี ในทุก 1 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 37 คน สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม พบว่า แนวโน้มคนไทยป่วยเป็นโรคไตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ต่อปี หากร่วมลดการบริโภคเค็มของคนไทย จะช่วยลดความสูญเสียจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างเห็นผล

   ด้าน ดร.นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า วิธีการลดพฤติกรรมติดเค็มของคนไทย ทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธี 3 ลด ประกอบด้วย ลดการเติม โดยเฉพาะการ เติมเครื่องปรุง /ลดการกินน้ำปรุง อาทิ น้ำส้มตำ, น้ำยำ, น้ำแกง และลดการกินอาหารแปรรูป อาทิ ไส้กรอก, ไตปลา, ปลาร้า, พริกแกง และกะปิ เพราะในแต่ละวันคนไทยควรบริโภคโซเดียมเทียบเท่ากับเกลือไม่เกิน 1/3 ช้อนชาต่อมื้อ หรือน้ำปลาไม่เกิน 2/3 ช้อนชาต่อมื้อ สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะได้ร่วมสร้างความตระหนักในสังคมด้วยการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมให้เกิดสิ่งแวดล้อมลดการบริโภคเค็ม ปลูกฝังความฉลาดรู้ตั้งแต่ในวัยเด็กผ่านหลักสูตรลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

   ขณะที่ แพทย์หญิงศศิธร ตั้งสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับแนวทางลดพฤติกรรมติดเค็มของคนไทย คณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ ได้จัดทำยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายให้ประชาชนบริโภคเกลือลดลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568 โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายลดการบริโภคโซเดียม ส่งเสริมให้ความรู้และสร้างวัฒนธรรมการบริโภคอาหารโซเดียมต่ำ เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำ ผลักดันภาคอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารให้ผลิตอาหารลดโซเดียม ตลอดจนการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยนวัตกรรมเพื่อลดการบริโภคโซเดียม รวมทั้งกระบวนการติดตามเฝ้าระวัง พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผู้บริโภค จากอาหารที่มีโซเดียมสูง ลดการป่วยและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์อาหารที่ลดปริมาณโซเดียมลง