30-04-2562

ถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเวชสำอางนาโนแฮร์โทนิคจากสารสกัดดอกคำฝอยให้ภาคเอกชนผลิตเชิงพาณิชย์

   ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากความสำเร็จของศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ในการวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากดอกคำฝอย เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางนาโนแฮร์โทนิค ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วย ในการเสริมความแข็งแรงของเซลล์รากผม บำรุงหนังศีรษะ ชะลอการหลุดร่วงและเสริมสร้าง การเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยวิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่ตื่นตัวในวงการวิชาการระดับนานาชาติ ตลอดจนสามารถใช้เป็นทางเลือกหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพนี้ ให้แพร่หลายสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. จึงได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้แก่บริษัทเฮอร์บอร์นิค จำกัด เพื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการวิจัยและพัฒนา องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในเชิงพาณิชย์ร่วมกันต่อไป

   ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางแฮร์นาโนโทนิคต้านการเกิดผมร่วงและเสริมสร้างการเจริญของเส้นผมจากสารสกัดดอกคำฝอย ภายใต้แบรนด์เฮิร์บบีริช ( Herberish ) เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากดอกคำฝอย ซึ่งเป็นสมุนไพรของประเทศไทยที่มีสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ จากงานวิจัยและพัฒนาของ วว. พบว่า สารสกัดดอกคำฝอย ในตัวทำละลายที่เหมาะสมยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสามารถยับยั้งเอนไซม์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดผมร่วงและศีรษะล้านได้ใกล้เคียงกับตัวยามาตรฐาน

   จุดเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์นี้คือ การใช้วิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยี เพื่อกักเก็บและนำส่งสาร ซัฟโฟลมิน เอ ( safflomin A ) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ตรวจพบในดอกคำฝอย โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านสารซัฟโฟลมิน เอ เข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่า การเตรียมสารสกัดในรูปสารละลายถึง 6 เท่า เนื่องจากมีขนาดหยดอนุภาคภายในน้อยกว่า 50 นาโนเมตร และมีความคงตัวทางกายภาพที่ดี ไม่เกิดการแยกชั้น หลังจากเก็บเป็นระยะเวลา 3 เดือน ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และ 45 องศาเซลเซียส

   นอกจากนี้ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์ไม่ก่อให้เกิดระคายเคืองต่อผิวหนังและหนังศีรษะของอาสาสมัคร ในด้านการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครยังพบว่า ผลิตภัณฑ์สามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมคิดเป็นร้อยละ 16.48 ซึ่งดีกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มควบคุม หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ ที่พัฒนาขึ้นยังปราศจากซิลิโคน พาราเบน และซัลเฟต

   ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่าอุตสาหกรรมความงามเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สำคัญและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศต่างๆ โดยมูลค่าของตลาดสินค้าความงามทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับประเทศไทยนั้นเป็นศูนย์กลางเวชสำอางอันดับ 3 ของเอเชีย ต่อจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ครอบครองตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน