15-05-2562

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังการลืมเด็กไว้ในรถ

   นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศเริ่มเปิดภาคเรียนตามปกติแล้ว ซึ่งผู้ปกครองและครูอาจารย์ต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ โดยเฉพาะในเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและในศูนย์เด็กเล็ก ทั้งรถรับส่งเด็กนักเรียน และรถของผู้ปกครองเอง ที่หากเกิดเหตุแล้วอาจเสี่ยงทำให้เด็กเสียชีวิตได้ จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือ ปี 2557 – 2561 พบว่า มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถจำนวน 106 เหตุการณ์ เด็กเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย เป็นเพศหญิง 3 ราย เพศชาย 2 ราย อายุอยู่ระหว่าง 3 - 6 ปี โดยเกิดเหตุขึ้นในรถรับจ้างรับส่งนักเรียน 4 ราย และรถยนต์ส่วนบุคคล 1 ราย ทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้ในรถนานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป โดยเกิดขึ้นขณะเด็กนอนหลับและจอดรถไว้หลังจากรับส่งนักเรียนเสร็จ

   อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลการทดสอบกรณีเด็กติดในรถ หรือ จอดรถกลางแดดของศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้ 10 นาที ร่างกายจะยิ่งแย่ และ 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวมตามมา จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้

   ในโอกาสนี้ ขอแนะนำผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับส่งนักเรียน และครูอาจารย์ ให้เตือนตนเอง ใน 3 ข้อควรจำ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ ดังนี้ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” ประกอบด้วย นับ คือ จำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง /ตรวจตรา คือ ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ และ อย่าประมาท คือ อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพัง แม้ว่าจะลงไปทำธุระเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม ทั้งนี้ ครูและผู้ปกครอง ควรสอนให้เด็กรู้จักการร้องขอความช่วยเหลือโดยการกดแตรรถ หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็ว ถ้าหากไม่พบเจ้าของรถ ก็ขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ สายด่วน 1669 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422