นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางร่วมมือในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา รวมถึงกำหนดแนวทางการตรวจสอบและพัฒนาฐานข้อมูลเด็กยากจน ด้อยโอกาสทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้เก็บข้อมูลเฉพาะตัวของประชากรวัยเรียนทั้งหมดของประเทศร่วมกับ 32 หน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ ปี 2549 เพื่อตรวจสอบความถูกต้องกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ โดยสามารถประมวลผลเป็นภาพรวมระดับประเทศออกมาเป็นรายชื่อของประชากรวัยเรียน โดยจำแนกรายละเอียดออกเป็น 5 ส่วน คือ ข้อมูลสถานศึกษา ข้อมูลนักเรียน ข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อมูลข้าราชการ และข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ซึ่งฐานข้อมูลดังกล่าวมีความละเอียดระดับครัวเรือน บ้านเลขที่ มีเด็กเยาวชนวัยเรียนอยู่ในทะเบียนบ้านใดบ้าง ครอบคลุมเด็กที่มีสัญชาติไทยและเด็กรอสัญชาติไทย หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก มีรายละเอียดการศึกษาของเด็กในทุกสังกัด พร้อมที่จะนำไปบูรณาการเพื่อสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง นำไปวางแผนผลิตกำลังคน ในสาขาที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานของประเทศ ซึ่งล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และมหาวิทยาลัยนเรศวรพัฒนาบิ๊กดาต้าหรือ ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ครอบคลุมทุกประเด็น ทุกแง่มุม และเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงานอีกด้วย ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาในฐานะเจ้าภาพการบูรณาการความร่วมมือการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีแผนจะหารือเรื่องนี้ อีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

   ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า ที่ผ่านมา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทยเพื่อสนับสนุนภารกิจตามหน้าที่ ซึ่งระบุไว้ว่าต้องศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา สนองความต้องการทางด้านกำลังแรงงาน และยกระดับความสามารถของคนไทย โดยสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้นำข้อมูลดังกล่าวมาพัฒนาฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ iSEE เบื้องต้นครอบคลุม2 กลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ คือ กลุ่มนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ และกลุ่มเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยระบบสามารถประมวลผลพื้นที่ซึ่งต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แสดงรายละเอียด เป็นรายบุคคล ระดับโรงเรียน ตำบล อำเภอ จังหวัดไปจนถึงระดับประเทศ

b   ทั้งนี้ ระบบ iSEE ยังสามารถบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาให้ระบบสามารถรายงานผลข้อมูลในมิติด้านกำลังคนของประเทศ เช่น ในเขตพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก และจังหวัดข้างเคียง ว่ามีจำนวนกำลังคนทั้งในและนอกระบบการศึกษาที่สามารถพัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่เท่าไหร่ โดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงนักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนการพัฒนาคนและการลงทุนให้สอดคล้องกับทิศทางของพื้นที่ตนเอง โดยคาดว่าระบบนี้จะสามารถพัฒนาแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1-2 ปี ซึ่งกองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา จะเปิดให้หน่วยงานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ทดลองใช้ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาในมิติข้อมูลการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของเด็กในและนอกระบบการศึกษา เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาระบบให้ดีขึ้นสอดคล้องต่อการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ทางwww.isee.eef.or.th ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นไป