27-05-2562

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กเล็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ย้ำขอความร่วมมือศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน

    ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว่า ขณะนี้สถานศึกษาเปิดภาคเรียน ประกอบกับเข้าสู่ช่วงฤดูฝน สภาพอากาศที่เย็นและชื้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งโรคที่ควรระวังในเด็กเล็ก คือ โรคมือเท้าปาก เนื่องจากมีโอกาสเกิดการแพร่กระจายโรคได้ง่าย ข้อมูลสำนักระบาดวิทยาในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 19 พฤษภาคม 2562 มีผู้ป่วยสะสม 11,107 ราย พบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 1–3 ปี คิดเป็นร้อยละ 93 โดยเฉพาะในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน และชุมชน ซึ่งโรคมือเท้าปากยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค วิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล จึงขอให้ครูพี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล หมั่นคัดกรองและดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข

   ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่พบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อจากการได้รับเชื้อทางปากจากเชื้อไวรัสที่ติดมากับมือ การใช้ช้อนและแก้วน้ำร่วมกัน หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย อาทิ มีไข้ /ปวดศีรษะ /คลื่นไส้ /ปวดเมื่อย บางรายอาจมีไข้ร่วมกับตุ่มพองเล็ก ๆ ที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และภายในช่องปาก ลิ้น และกระพุ้งแก้ม โดยตุ่มพองในปากจะอักเสบ แดง และแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น โดยทั่วไปจะหายเองภายใน 7-10 วัน แต่หากอาการรุนแรง อาทิ มีไข้สูง /ซึม /อาเจียน /หอบ /แขนขาอ่อนแรงกินอาหารหรือนมไม่ได้ ให้รีบพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที

   สำหรับมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน ประกอบด้วย ตรวจคัดกรองเด็กเป็นประจำทุกวันในตอนเช้า /ให้เด็กล้างมือบ่อย ๆ อาทิ ก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องส้วม /เด็กป่วยให้แจ้งผู้ปกครองรับกลับ และหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้าน /ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือ ของใช้ ของเล่นเป็นประจำทุกสัปดาห์ และทุกครั้งที่พบมีเด็กป่วย /หากพบเด็กป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที และพิจารณาปิดห้องเรียน หรือปิดโรงเรียนชั่วคราวประมาณ 5-7 วัน หากมีเด็กป่วยหลายห้อง และจัดประชุมอบรมให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ควรดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้การป้องกันควบคุมโรคมือเท้าปากเกิดประสิทธิภาพสูงสุด