27-05-2562

กรมสุขภาพจิต แนะใช้ 4 วิธี ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท ภายใต้แนวคิด “ญาติใกล้ ได้ยา มาตามนัด ขจัดยาเสพติด”

   นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ว่า ในประเทศไทยโรคจิตเภทเป็นโรคทางจิตเวชที่ถึงแม้จะพบไม่มาก แต่ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญทางด้านจิตเวชและสาธารณสุข ซึ่งจะพบโรคนี้ประมาณร้อยละ 1 ของประชากร คาดว่า ทั่วประเทศมีประมาณ 600,000 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงาน พบในผู้ชายและผู้หญิงใกล้เคียงกัน ในปีที่ผ่านมาผู้ป่วยจิตเภทเข้าถึงบริการแล้ว 480,000 คน สำหรับลักษณะอาการที่สำคัญของผู้ป่วยโรคจิตเภทที่สามารถสังเกตได้ คือ หลงผิด, ประสาทหลอน, พูดจาไม่รู้เรื่อง, และมีพฤติกรรมท่าทางแปลก ๆ แต่งกายไม่เหมาะสม ซึ่งสามารถรักษาได้ หากพบแพทย์เร็วและได้รับการดูแลฟื้นฟูที่เหมาะสม

   อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ เป็นศูนย์เชี่ยวชาญดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการรุนแรงยุ่งยากซับซ้อนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งยังเป็นศูนย์เชี่ยวชาญต้นแบบในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท ซึ่งทางโรงพยาบาลได้น้อมนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยจัดทำโครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมด้านการเกษตร เป็นโครงการเกษตรบำบัด การทำแปลงผักสวนครัวแบบอินทรีย์ โดยไม่ใช้สารเคมี สำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการดีขึ้นบ้างแล้ว สามารถควบคุมตนเองได้ร่วมกับโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคมและอาชีพให้กับผู้ป่วยในรูปแบบอื่น ๆ

   สำหรับ การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ ใช้ 4 วิธีง่าย ๆ ประกอบด้วย ญาติใกล้ มีญาติคอยดูแล ใช้ครอบครัวบำบัด พร้อมพูดคุยแบ่งปันความรู้สึกแก่กันได้ และสังเกตอาการเตือนของผู้ป่วยก่อนนำเข้าพบแพทย์ //ได้ยา การให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น ควรให้ผู้ป่วยได้กินยาอย่างต่อเนื่อง //มาตามนัด ให้ผู้ป่วยมารักษาอาการตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง ไม่ขาดนัด และขจัดยาเสพติด หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดทุกชนิด ทั้งสุราและยาเสพติด แม้ว่าธรรมชาติของโรคจิตเภทส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรื้อรัง แต่หากสามารถดูแลให้ผู้ป่วยได้ปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ จะทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น ไม่มีอาการกำเริบ มีโอกาสหายสูง รวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย.