31-05-2562

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันองค์การอนามัยยังถือกัญชาเป็นยาเสพติด เปิดให้ใช้ประโยชน์ได้ภายใต้การควบคุม

   ศาสตราจารย์ คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า การเดินหน้าใช้ประโยชน์กัญชาในประเทศไทย ขณะนี้เป็นไปตามกรอบ ที่ทั่วโลกดำเนินการ และถือว่าก้าวหน้ากว่าที่ใดในเรื่องของการเปิดให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจากการเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่อนามัยโลก ที่ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเร็วๆนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกที่ดูแลเกี่ยวกับสารเสพติด รวมถึงผู้แทนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ที่เปิดให้นำกัญชาเป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้นั้น ล้วนทำภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดที่รัดกุม เพราะชัดเจนว่าองค์การอนามัยโลกยังคงให้กัญชาเป็นสารเสพติด

   การจะใช้สารสกัดจากกัญชา ซึ่งมีสาระสำคัญ 2 อย่าง คือ CBD ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ กับสาร THC ที่ทำให้เกิดการเสพติด ประกาศว่าถ้าจะนำกัญชาไปผสมผลิตภัณฑ์ใดก็ตามต้องมีปริมาณ THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ผสมกัญชาวางขายตามท้องตลาดก็เข้มงวด เรื่องปริมาณส่วนผสมนี้เช่นกัน ถ้าผลิตภัณฑ์ใดมีสาร THC เกินร้อยละ 1 ถือเป็นยาที่ต้องสั่งจากโดยแพทย์ที่มีใบรับรองให้สั่งจ่ายกัญชาได้ ถือเป็นแนวทางเดียวกับที่ประเทศไทยดำเนินการ และไทยจำเป็นต้องเข้มงวด เรื่องการใช้ประโยชน์กัญชามากเพราะกัญชาสายพันธุ์ไทยเป็นสายพันธุ์ที่มีสาร THC สูงถึงร้อยละ 10 เกินกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกยอมรับได้มาก

   ดังนั้น การที่รัฐบาลเปิดให้ใช้กัญชาเป็นยา ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะยามีทั้งคุณและโทษ หากใช้โดยไม่คำนึงถึงโทษ อันตรายก็จะตกอยู่กับประชาชน สำหรับกรณีแพทย์ โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่มีการหยดน้ำมันกัญชาให้ผู้ป่วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบตามกระบวนการ ยืนยันทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย