05-07-2562

กระทรวงสาธารณสุข จัดระบบบริการกัญชาทางการแพทย์ในสถานพยาบาลครบวงจร

   ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบบริการกัญชาทางการแพทย์ในสถานพยาบาลครบวงจร โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงาน ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเพื่อให้การนำกัญชาไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ในด้านการปลูก การผลิต และการกระจายผล โดยองค์การเภสัชกรรม หรือ อภ.จะผลิตน้ำมันกัญชาล็อตแรกในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 10,000 ขวด และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำนวน 5,000 ขวด นำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์ ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ส่วนโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น จะผลิตตำรับยาแผนไทย 5 ตำรับจากกัญชาของกลาง ด้านผู้สั่งใช้กัญชาทางการแพทย์ ปัจจุบันมีแพทย์ เภสัช และทันตแพทย์ ผ่านการอบรม 400 คน มีแพทย์แผนไทยผ่านการอบรม 2,900 คน โดยจะปรับการอบรมแบบออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้สั่งใช้นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแนวทางการนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ แนวทางการรักษาเมื่อผู้ป่วยเกิดปัญหาจากการใช้ยากัญชา กำหนดวิธีการขอรับอนุญาตจำหน่ายในสถานพยาบาล โดยระยะแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคม –เดือนกันยายน 2562 สามารถจัดบริการกัญชาทางการแพทย์ได้ในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง และขยายระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ภายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2563

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า โดยขณะนี้การนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ถือว่าเป็นระยะเริ่มต้นปริมาณการผลิตยังอยู่ในวงจำกัดสำหรับผู้ป่วยในโครงการ ระยะต่อไปจะมีการขยายให้เพียงพอต่อการนำไปใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ภายใต้การดูแลของแพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ และแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมเพื่อให้เกิดผลในการรักษาและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้

   ทั้งนี้ การนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ ต้องระมัดระวังเนื่องจากมีทั้งคุณและโทษ โดยมีข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรคด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม อาทิ กลุ่มโรคที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ยืนยันประสิทธิผลชัดเจนได้ประโยชน์ในการรักษา ประกอบด้วย ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัด, โรคลมชักที่รักษายากหรือดื้อต่อยารักษา, ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และภาวะปวดประสาทที่ดื้อต่อการรักษา //กลุ่มที่มีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนการวิจัยเพิ่มเติม น่าจะได้ประโยชน์ในการควบคุมอาการ อาทิ โรคพาร์กินสัน, โรคอัลไซเมอร์, ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ดูแลแบบประคับประคอง, บรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยมะเร็ง และกลุ่มที่สารสกัดกัญชาอาจได้ประโยชน์ในการรักษาแต่ยังขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยให้พิจารณาสั่งจ่ายเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้การรักษาตามวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ส่วนด้านการแพทย์แผนไทย มีตำราทางการแพทย์แผนไทยและตำรับยาแผนไทยที่อนุญาตให้ใช้เพื่อการรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ 16 ตำรับ