09-07-2562

กองทัพเรือ ร่วมกับกรมศิลปากร เตรียมความพร้อมจัดขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน

   พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กล่าวว่า พระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ปลายปี พ.ศ. 2562 นั้น ถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เบื้องปลาย และการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัฐบาลได้มอบภารกิจในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ โดยมีการจัดเตรียมเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้นจำนวน 52 ลำ ประกอบด้วยเรือที่สำคัญเป็นเรือพระที่นั่ง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วย เช่น เรือรูปสัตว์ เรือดั้ง เรือแซง เป็นตัน ทั้งนี้ จากการที่กองทัพเรือได้ร่วมกับกรมศิลปากรสำรวจสภาพเรือพระราชพิธี พบว่ามีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก เช่น เรือมีรอยแตก ตัวเรือบิด เป็นต้น ในการนี้กองทัพเรือ จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการซ่อมบูรณะ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมบูรณะเสร็จสิ้นเรียบร้อย และจะดำเนินการประกอบพิธีบวงสรวงเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์จำนวน 14 ลำ ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 จากนั้นวันที่ 12 – 23 กรกฎาคม จะเชิญเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ลงน้ำ และลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรี เพื่อเตรียมงานพระราชพิธีต่อไป

   สำหรับเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินที่ได้เตรียมไว้เป็นเส้นทางเดียวกับที่เคยใช้ตั้งแต่พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ เส้นทางจากท่าวาสุกรี ถึง วัดอรุณราชวราราม ซึ่งการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ประชาชนจะได้สัมผัสบรรยากาศ แห่งความงดงามตระการตาของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย ซึ่งจะถูกถ่ายทอดสู่สายตาของชาวไทยและชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน