23-07-2562

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมมาตรการรับมือไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น หลังมีแนวโน้มสูงขึ้น

   นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกขณะนี้แนวโน้มสูงขึ้นในทุกจังหวัด ซึ่งในปีนี้ครบวงรอบการระบาด ซึ่งปกติ จะระบาดปีเว้นปีหรือสองปี จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการรับมืออย่างเข้มข้น โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งตั้งมุมให้คำปรึกษาไข้เลือดออก เพื่อคัดกรอง ติดตาม ดูแลรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก และจัดให้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ดูแลกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยอาการรุนแรงอย่างใกล้ชิด จัดอบรมแพทย์จบใหม่ในการวินิจฉัย ดูแลรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก รวมถึงขอความร่วมมือ ประชาชนทุกภาคส่วน จิตอาสา ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่อง โดยให้แต่ละบ้านสำรวจจุดเสี่ยงแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายที่พบบ่อย เช่น ภาชนะที่ถูกทิ้ง จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่าไม่ให้มีน้ำขัง ส่วนภาชนะรองน้ำทิ้งหลังตู้เย็น ภาชนะรองขาตู้กับข้าว แจกันพลูด่าง แก้วน้ำหิ้งพระให้ทำความสะอาดเปลี่ยนน้ำ ทุกสัปดาห์ หรือใช้กับดัก “LeO-Trap” (ลีโอแทรป) ใส่สารซีโอไลท์ นวัตกรรมที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้คิดค้นขึ้น ซึ่งเป็นกับดักไข่ยุงแบบดักตาย นำไปวางในบ้าน ในห้องนั่งเล่น ใต้บันได ชั้นวางรองเท้า หรือบริเวณที่มียุงชุกชุมเพื่อช่วยตัดวงจรยุง และขอความร่วมมือร้านขายยา คลินิก ไม่ให้จ่ายยาแก้ปวดลดไข้กลุ่มเอ็นเสด เช่น แอสไพริน บรูเฟ่น ในผู้ป่วยที่สงสัยโรคไข้เลือดออก เพราะอาจทำให้เกิดอาการเลือดออกมากขึ้น

   ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ล่าสุด จากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 9 กรกฎาคม 2562 พบผู้ป่วยไข้เลือดออก จำนวน 44,671 ราย เสียชีวิต จำนวน 62 ราย โดย ในเดือนมิถุนายน มีผู้ป่วยจำนวน 15,440 ราย เสียชีวิต 13 ราย ขอแนะนำประชาชนหากพบเห็น

   ผู้ป่วยมีไข้สูง 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น อ่อนเพลีย ซึมลง ปัสสาวะสีเข้ม หรือไข้ลดแล้วแต่อาการแย่ลง ซึมกว่าเดิม เบื่ออาหาร ขอให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกและรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และห้ามซื้อยารับประทานเอง