08-08-2562

กรมควบคุมโรค เตือนระวังโรคคางทูมระบาด แนะผู้ปกครองพาบุตรหลานรับวัคซีนให้ครบ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดีที่สุด

   ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กล่าวว่า พื้นที่บ้านดอนโรงและบ้านป่าไหม้ จังหวัด นครศรีธรรมราช ได้รับการสนับสนุนจากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม หรือ สน.6 สสส. ในการจุดประกายให้ผู้นำและคนในชุมชนมองเห็นสถานการณ์ปัญหาภายในชุมชนตนเอง อาทิ ที่บ้านดอนโรง ประชากรส่วนใหญ่มีปัญหารายได้ไม่เพียงพอ สภาพดินไม่เอื้อกับการทำเกษตรกรรม สสส.จึงผลักดันให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ด้วยการสนับสนุนความรู้ทางวิชาการ สร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหาปากท้อง จนเกิดเป็นคลังอาหารชุมชนส่งเสริมอาชีพเพิ่มพูนรายได้จากการทำผลิตภัณฑ์ปลาดุกร้า เลี้ยงจิ้งหรีด และเพาะเห็ด ส่วนเหตุผลที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องปากท้องก่อน เพราะ สสส.เชื่อว่าก่อนที่คนจะหันมาใส่ใจสุขภาพได้ ความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจครัวเรือนต้องมาก่อน และนอกจากการจุดประกายความคิดให้คนในชุมชนแล้ว สสส.ยังทำหน้าที่จุดประกายให้องค์กรรัฐต่าง ๆ เข้าร่วมสนับสนุนชุมชนให้เข้มแข็งมากขึ้น สิ่งที่ สสส.จะดำเนินการต่อไปหลังจากนี้คือการทำให้ชุมชนภาคใต้ได้รู้จักกัน เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความรู้ความต้องการใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมในระดับภูมิภาค

   ด้าน นายมนูญ พลายชุม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาพระบาท กล่าวว่า บ้านดอนโรงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ดำเนินโครงการชุมชนน่าอยู่ ตำบลเขาพระบาท โดยได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ตั้งแต่ปี 2560–2563 มีสภาผู้นำชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงาน ซึ่งมาจากกลุ่มเดิมคือกรรมการหมู่บ้านและรับสมัครตัวแทนในชุมชนจากกลุ่มต่าง ๆ และจิตอาสาที่เข้ามาร่วมกันพัฒนาหมู่บ้านด้วยความสมัครใจ ทุก ๆ กิจกรรมที่นำมาใช้ในการพัฒนาบ้านดอนโรงล้วนมาจากการร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมกันทำของสภาผู้นำชุมชนและชาวบ้าน มีการประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ประเด็น“คลังอาหารชุมชน” ผลิตอาหารที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี คนบ้านดอนโรงสามารถผลิตอาหารไวบริโภคได้เอง พร้อมกับทำบัญชีครัวเรือนอยู่ตลอด ซึ่งขณะนี้คนบ้านดอนโรงมีสุขภาวะที่ดี มีความเข้มแข็ง มีอาชีพ มีรายได้ ป่วยน้อยลง โรคความดันโลหิตสูงไม่เพิ่มขึ้น กระทั่งบ้านดอนโรงไม่มีกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานหรือโรคเบาหวานเป็นศูนย์แล้ว และได้รับการยกระดับให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงในระดับอำเภอ และล่าสุดในระดับจังหวัด

   ขณะที่ นายสุทิน จำปาทอง ประธานกองสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลท่างิ้ว กล่าวว่า ตำบลท่างิ้วประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน มีประชากร 10,000 กว่าคน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรและรับจ้างทั่วไป บ้านป่าไหม้เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ชุมชนมีความเข้มแข็ง ในการขับเคลื่อนงาน “ชุมชนน่าอยู่บ้านป่าไหม้” ทั้งชาวบ้านและผู้นำชุมชนเราทำงานร่วมกัน มีข้อมูล มีเกณฑ์ในการบอกถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จในการพัฒนาได้อย่างชัดเจน ด้านการส่งเสริมเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ได้ประยุกต์ใช้รูปแบบการออกกำลังกายสไตล์ “โนราบิค” ที่นำเอาวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้มาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ ตามแนวคิด“ ขยับเท่ากับลดโรค” โดยได้รับความร่วมมือจาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกพึงในการประเมินสุขภาพก่อนการออกกำลังกาย โดยรูปแบบดังกล่าวนี้ส่งผลให้คนในชุมชนบ้านป่าไหม้มีสุขภาวะดี ลดปัญหาการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ อย่างได้ผล และด้านอาชีพ บ้านป่าไหม้เริ่มต้นจากทุกครัวเรือนปลูกผัก เลี้ยงสัตว์กินเอง บางอย่างแลกเปลี่ยนกันได้ และยกระดับไปสู่การทำเป็นอาชีพ ทั้งนี้ สสส. เข้ามามีบทบาทในการการขับเคลื่อนสร้างเครือข่ายในชุมชน มีการตั้งสภาชุมชน สนับสนุนด้านงบประมาณและวิชาการ ช่วยให้คนในชุมชนเกิดความรู้ มีรายได้เพิ่มขึ้น และยังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้คนในชุมชนเกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ช่วยสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีให้คนในชุมชนอีกด้วย