21-08-2562

นายกรัฐมนตรี ย้ำบัตรสวัสดิการ ต้องเป็นมาตรการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการพัฒนาทุกมิติ

   นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและนำผลการประเมินมาปรับปรุงการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยจนเมื่อมีการลงทะเบียนผู้ต้องการมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงเริ่มมี Big data (บิ๊กเดต้า) ของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำบัตรสวัสดิการ ต้องเป็นมาตรการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ย้ำว่า Big data ผู้มีรายได้น้อยนี้จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกต่อไป และต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยอย่างถี่ถ้วน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนให้ครบทั้ง 4 มิติ คือ ช่วยให้เข้าถึงสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน พัฒนาทักษะทางอาชีพและการศึกษา ช่วยหางานให้ทำ และช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมามีผู้มีรายได้น้อยเข้ารับการพัฒนาอาชีพจำนวน 3 ล้าน 2 แสนคน ช่วยให้คนพ้นเส้นความยากจนที่ระดับ 30,000 บาทต่อปี ได้ถึง 1 ล้านคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,713 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 บาท และช่วยให้คนพ้นเพดานรายได้ที่ 100,000 บาท ได้ 1 แสนคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,861 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 46,000 บาท

   นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังฝากไปยังผู้มีรายได้น้อย ว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในทั้ง 4 มิติ โดยขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการพัฒนาทุกมิติ และฝากเชิญชวนภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐ ในการพัฒนาทักษะอาชีพ พร้อมทั้งจ้างงานผู้มีรายได้น้อย จึงจะทำให้เกิดการหลอมรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย ที่จะร่วมกันแก้ปัญหาหาความยากจนอย่างยั่งยืน