02-09-2562

กรมการแพทย์ เตือนให้ประชาชนตื่นตัวป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง หากมรอาการให้รีบไปพบแพทย์ด่วนที่สุด เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

   นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งของโรคทางระบบประสาท และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญในอันดับต้น ๆ ของประเทศ โรคนี้ถ้าหากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงทีส่วนใหญ่ จะมีความพิการหลงเหลือตามมา ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ อาทิ ความดันโลหิตสูง /เบาหวาน /ไขมันในเลือดสูง /มีญาติสายตรงป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดการออกกำลังกาย /น้ำหนักเกิน และสูบบุหรี่ ทั้งนี้ผู้ป่วยจะมีอาการเตือนสำคัญ คือ แขน ขาอ่อนแรงซีกเดียวของร่างกาย /สับสน /พูดลำบาก /พูดไม่รู้เรื่อง /ตามองเห็นลดลง 1 หรือทั้ง 2 ข้าง /มีปัญหาการเดิน และมึนงง ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดฉับพลันให้รีบมาพบแพทย์ด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง จะรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด สำหรับวิธีการลดความเสี่ยง อาทิ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม ไขมันสูงออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักงดเครื่องดื่มมึนเมา เลี่ยงสูบบุหรี่ และตรวจสุขภาพประจำปี

   ด้าน แพทย์หญิงไพรัตน์ แสงดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่สำคัญของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองคือการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จำเป็นต้องรักษาหรือฟื้นฟูด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายมีสภาพที่ดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นสำหรับวิธีการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตควรทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ป่วยและผู้ดูแลเพื่อการดูแลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากเป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเรื้อรังหรือฉับพลันเพื่อลดความพิการหรือป้องกันความพิการให้ได้มากที่สุดสามารถใช้ชีวิตให้เป็นปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับการวินิจฉัยโรคว่าคนไข้อ่อนแรงจากอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือไม่ หรือเป็นที่กล้ามเนื้อและกระดูก แพทย์จะซักประวัติและอาจเอกซเรย์สมอง ร่วมด้วย หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวจะส่งให้แพทย์ดูแลอาการให้สภาพคงที่จากนั้นส่งไปยังศูนย์ฟื้นฟูเพื่อกายภาพบำบัดตามลำดับ

   ดังนั้น ประชาชนจึงควรมีความรู้เบื้องต้นในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและการทราบถึงอาการเบื้องต้นเพื่อการส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา จะยิ่งมีโอกาสสูงมากในการเยียวยาอาการให้ดีขึ้น อาทิ การให้ยาละลายลิ่มเลือดในภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ และการดูแลที่เหมาะสมในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือด ในสมองแตกจะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน ตลอดจนการลดอัตราการเสียชีวิตได้