05-09-2562

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั่วประเทศ ต้องมีการจัดการศึกษาให้เท่าทันในยุคศตวรรษที่ 21

   นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยกล่าวว่า ท่ามกลางการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน การจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานย่อมได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีการปรับตัวและยกระดับคุณภาพการศึกษา อย่างจริงจังเพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติได้พัฒนาทั้งความรู้คุณลักษณะและทักษะสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและสามารถแข่งขันได้ ในระดับนานาชาติ การต่อยอดการศึกษาไทยสิ่งสำคัญ คือ ต้องต่อยอดในสิ่งที่มีอยู่และปรับปรุงในส่วนที่ด้อย ซึ่งถ้านโยบาย ไม่มีการนำไปปฏิบัติจริงถือว่าเสียปล่าวและทำให้การศึกษาไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ รวมถึงต้องมีการจัดการศึกษาให้เท่าทันในยุคศตวรรษที่ 21 โดยต้องอาศัยทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีปริมาณมากและถ้าไม่มีการสร้างความรู้ ความสามารถแก่เยาวชนก็จะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน สร้างเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถให้ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งบประมาณในเรื่องต่างๆต้องใช้อย่างคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์และขอให้ทุกคนเอาใจใส่ต่อหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยทุกภาคส่วนต้องช่วยกันดูแล

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้บริหารทุกคนวางโครงสร้างการบริหารจัดการให้แก่คนทำงานในรุ่นต่อไปด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคทั้งการมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด / ศึกษาธิการภูมิภาค และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาคจะต้องมีการปรับแก้ไขแน่นอน สำหรับเรื่องงบประมานของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นที่ทราบกันดีว่า ได้รับงบประมาณสูงสุดกว่ากระทรวงอื่นๆ ซึ่งงบเหล่านี้เป็นการให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการศึกษา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูและนักเรียนทุกคน

   ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาไทยเป็นอย่างมาก และมีหลายคนเฝ้ามองการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการอยู่ ขณะเดียวกันเรื่องทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการมีถึง 30-40 เรื่อง ซึ่งสะท้อนว่าการบริหารจัดการของเรายังไม่ดีพอ ซึ่งกระทรวงจะต้องร่วมปิดช่องโหว่ในจุดนี้ให้ได้ ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและก้าวไปพร้อมกัน ในการขับเคลื่อนการศึกษาและใน1-3ปี จะต้องหาสิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่องานด้านการศึกษาให้ได้