02-10-2562

กระทรวงสาธารณสุข เตือนมลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครในหลายเขตเกินค่ามาตรฐาน

   นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์หมอกควันในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุดมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว จึงได้เตรียมการโดยให้โรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในพื้นที่ จัดเตรียมเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ยาประจำห้องฉุกเฉินต่างๆ เพื่อให้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยจากการสูดดมมลพิษหมอกควันได้อย่างทันท่วงที ในส่วนของประชาชน ขอให้ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามข้อแนะนำ ของทางราชการอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการออกนอกสถานที่ รวมทั้งทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงข้างต้น ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม งดเว้นการสูบบุหรี่ เผาหญ้า ต้นไม้ หรือขยะต่างๆ หลีกเลี่ยงกิจกรรมการใช้แรงมาก เช่น การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากจะเพิ่มการหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย 10-20 เท่าตัว ใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก จะทำให้ห่างไกลจากมลพิษทางอากาศได้

   ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หมอกควันจัดเป็นมลพิษทางอากาศชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการสะสมของควัน หรือฝุ่นละอองในอากาศ ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยจะมีอาการเบื้องต้น คือ ระคายเคืองดวงตา จมูก คอ ทางเดินหายใจ เช่น คันบริเวณตา แน่นจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจลำบาก นอกจากนี้เมื่อเกิดมลพิษทางอากาศจะทำให้คนที่เป็นโรคหอบหืด / ถุงลมโป่งพอง หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดแสดงอาการมากขึ้น จากการศึกษาพบว่า โอโซน จะเข้าไปทำลายเนื้อปอดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีอาการเลย ผู้ที่เป็นโรคปอดและหัวใจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์จะทำให้มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีความไวต่อผลของมลพิษทางอากาศ ดังนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากพบอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย เช่น หายใจลำบาก / ระคายเคืองตา /แน่นหน้าอก / ปวดศีรษะ / คลื่นไส้ / อ่อนเพลีย / เหนื่อยง่าย ให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อทำการรักษาทันที