27-11-2562

กรมควบคุมโรค มุ่งจัดการสุขภาพผู้พักอาศัยในหมู่บ้านจัดสรรเมืองทั่วประเทศ ผ่านโครงการ ยูวิลแคร์ เริ่มเดือนธันวาคมนี้

   นายแพทย์ ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวหลังเป็นประธานเปิดการประชุมพัฒนาความร่วมมือเครือข่ายและบูรณาการขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ไขปัญหาโรคและภัยสุขภาพ ว่า ปี 2561 ครึ่งหนึ่งของประชากรไทย หรือราว 37 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ทำให้รูปแบบที่พักอาศัย มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเมืองขนาดใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร กลายเป็นชุมชนแนวตั้งมากขึ้น ในขณะที่เมืองเกิดใหม่ในต่างจังหวัดมีบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วของบ้านจัดสรรเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ร้อยละ 60 ของผู้สูงอายุในบ้านจัดสรร ขาดการจัดการดูแลเชิงระบบ เสี่ยงต่อการเกิดโรค ภาวะฉุกเฉิน โรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเสียชีวิต เพื่อให้การเข้าถึงการป้องกันควบคุมโรค ลดความเหลื่อมล้ำการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ชุมชนการเคหะ ประมาณ 8 ล้านคน ที่ยากต่อการควบคุมโรค ไม่มีอาสาสมัครสาธารณสุข จึงจำเป็นต้องจัดการพื้นที่สุขภาพมุ่งเป้า ที่เน้นให้เกิดการป้องกันควบคุมโรค ที่ประชาชนมีส่วนร่วมและกำกับติดตามแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ภายใต้โปรแกรมการป้องกันควบคุมโรคระดับชาติ ผ่านโครงการยูวิลแคร์ (uVilleCare) ที่นำดิจิทัลเทคโนโลยี มาออกแบบให้มีระบบแจ้งเตือน ในบ้านของตนเองในขณะที่ออกไปทำงานนอกบ้าน และนำมาใช้จัดการป้องกันควบคุมโรคที่ลดขั้นตอน เช่น แจ้งเตือนสุขภาพ ผู้มีภาวะเสี่ยง ครอบคลุมโรคเรื้อรังและการบริการวัคซีน รวมถึงภาวะฉุกเฉินให้เข้าถึงสถานบริการได้ทันเวลาผ่านความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ส่งผลให้ลดการป่วย การตายและลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ โดยจะเริ่มดำเนินการธันวาคมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2563 ให้กับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองทั่วประเทศ ซึ่งโครงการยูวิลแคร์ (uVilleCare) นี้ จะลดค่าใช้จ่ายภาครัฐได้มากถึง 5,900 ล้านบาท