นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงหน้าแล้งทุกพื้นที่ทั่วไทยใช้น้ำทุกด้านจากน้ำกักเก็บในเขื่อน มีเพียงภาคใต้ที่กำลังอยู่ในช่วงฤดูฝนแต่ก็กำลังจะหมดฝนปลายเดือนมกราคม 2563 และต้องใช้น้ำจากเขื่อนเช่นกัน สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่ 35 แห่ง ทั่วประเทศขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บเฉลี่ยร้อยละ 65 หรือราว 46,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้เขื่อน 7 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำกักเก็บน้อยกว่าร้อยละ 30 ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ / เขื่อนอุบลรัตน์ / เขื่อนลำพระเพลิง / เขื่อนลำนางรอง / เขื่อนทับเสลา / เขื่อนกระเสียว และเขื่อนแม่กวง

   อย่างไรก็ตาม จากแผนการบริหารจัดการน้ำที่วางไว้คือ พื้นที่น้ำน้อยไม่สนับสนุนให้ปลูกข้าว แต่ให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย คาดว่าน้ำจะมีเพียงพอใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคจนพ้นแล้งในเดือนเมษายน2563 และยังมีสำรองต่อไปอีก 3 เดือน กรณีหากฝนทิ้งช่วง แต่ทั้งหมดต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งานแต่ละพื้นที่

   นายทองเปลว กองจันทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เป็นลุ่มน้ำสำคัญนั้น ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บ ร้อยละ 47 หรือราว 11,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ใช้งานได้ประมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะต้องสำรองน้ำเพื่อการรักษาสมดุลระบบนิเวศน์ด้วย จึงไม่สนับสนุนการปลูกข้าว อย่างจริงจังมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเกษตรกร ทำให้น้ำที่ใช้ไปแล้วในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ร้อยละ 16 ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่