14-01-2563

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวข้องแก่เกษตรกร

   นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ณ เทศบาลตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ แพะเนื้อและไก่พื้นเมือง รวมถึงกิจการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านปศุสัตว์ไทยและส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ให้มีระบบการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน รวมทั้งฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนเสียหายอันเกิดจากภัยธรรมชาติและผลกระทบจากราคาพืชผลตกต่ำ เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกให้แก่เกษตรกร

   สำหรับโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ในเบื้องต้น มีเป้าหมายเป็นกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน 40,000 รายในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเกษตรกรต้องจัดซื้อพันธุ์ตามคุณลักษณะที่กรมปศุสัตว์กำหนด พร้อมกันนี้รัฐบาลจะสนับสนุนค่าอาหารสัตว์ สนับสนุนเบี้ยประกันภัย และสนับสนุนบ่อบาดาลเพื่อการเกษตร ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง มีเกษตรกร ผู้แทนเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ให้ความสนใจและร่วมรับฟังรายละเอียดของโครงการฯ กว่า 800 ราย

   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อชีวิต ความเป็นอยู่ของเกษตรกร จึงมีแนวทางเพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูอาชีพการเกษตรให้มีความมั่นคงและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ให้เกษตรกรกู้เงินในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.01 ต่อปี เช่น การกู้เงิน 1 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 100 บาทต่อปี โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี และตั้งใจว่าระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนี้ เกษตรกรจะต้องมีรายได้ ซึ่งการดำเนินการต่างๆ นั้นจะต้องมีตลาดที่แน่นอนและมีการขึ้นทะเบียนที่ถูกต้องด้วย อย่างไรก็ตาม การได้ชี้แจงแนวทางให้เกษตรกรรับฟังในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นแนวทางที่จะพัฒนาด้านการเลี้ยงสัตว์ ให้มีศักยภาพ เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป