นายวิภู กฤษณุรักษ์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูง ควรหมั่นดูแล เฝ้าระวังสุขภาพร่างกาย หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ ระหว่าง 51 - 90 ไมโครกรัม ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองก่อนออกนอกบ้าน นอกอาคาร และหากว่าวันใดที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กมีเกินกว่า 91 ไมโครกรัมขึ้นไป ถือว่าเริ่มอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรอยู่ในพื้นที่ Safety Zone ภายในบ้าน หรือสถานที่ภาครัฐจัดไว้ให้ งดกิจกรรมภายนอกอาคารทุกชนิด หรือเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายในอาคารที่ปิด และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้เป็นโรคทางระบบทางเดินหายใจ ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเตรียมยาที่จำเป็นให้พร้อม หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

   รองศาสตราจารย์ชูโชค อายุพงศ์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการเรื่องการทำพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่นควัน เป็นต้นแบบ ที่สำคัญ มีหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัด ระดับอำเภอและระดับตำบล กระจายทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวิธีการรับมือภัยพิบัติตามธรรมชาติตามมาตรฐานโลก ถือเป็นการยืนยันมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ นอกจากจะมีการจัดพื้นที่ Safety Zone ในหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงเรียนแล้ว ยังได้เร่งผลักดันให้พื้นที่อื่น อาทิ โรงแรม / สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน / ร้านกาแฟ ให้มีการตื่นตัวประชาสัมพันธ์ตนเองด้วยการติดป้าย Safety Zone ในการดูแลผู้ที่มาใช้บริการ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างง่ายดายทุกพื้นที่ ตั้งรับภัย ให้ประชาชนที่เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับอากาศบริสุทธิ์และยังถือเป็นการทำเมืองเชียงใหม่ให้น่าอยู่ได้ อีกด้วย