16-03-2563

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ยังไม่ปิดประเทศ แต่ยกเลิก Visa on Arrival และฟรีวีซ่า

   พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือ COVID-19 กล่าวว่า ประเทศไทย ยังอยู่ในระยะที่ 2 จึงต้องออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ไทยต้องก้าวสู่ระยะที่ 3 โดยเฉพาะมาตรการการเข้าออกประเทศจะยากกว่าเดิม เพราะอาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากจะมีคนเข้าประเทศลดลง แต่ยังไม่ปิดประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะเร่งประสาน ทำความเข้าใจ แนวทางปฏิบัติของไทย ดังนั้นจึงไม่สามารถพิจารณาข้อเรียกร้องปิดประเทศได้ตามที่หลายฝ่ายสะท้อนความคิดเห็น ทั้งย้ำว่า จะดำเนินการทุกมาตรการโดยเข้มงวด หากพบผู้หลบหนี การกักตัว อาจมีโทษจำคุก 1 ปี หรือ ปรับ 1 แสนบาท

   ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า แนวทางปฏิบัติมาตรการดังกล่าว แบ่งเป็น ให้ยกเลิกชั่วคราว การตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival 18 ประเทศ และยกเว้นการตรวจตรา หรือ Visa Free 2 ประเทศ 1 เขตปกครองพิเศษ ได้แก่ อิตาลี สาธารณรัฐเกาหลี และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคจะคลี่คลาย ส่งผลให้ผู้ที่เดินทางจากประเทศเหล่านี้ ต้องขอวีซ่าที่สถานทูตก่อนเดินทางเข้าไทย

   สำหรับขั้นตอนคัดกรองจะเริ่มตั้งแต่ต้นทาง โดยชาวต่างชาติ จะเดินทางเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ ที่อายุไม่เกิน 3 วัน ยื่นประกอบขอวีซ่า รวมทั้งใช้ในการออกตั๋วเดินทางและเมื่อมาถึงประเทศไทย ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เพื่อยืนยันก่อนเข้าประเทศ จากนั้นต้องผ่านระบบคัดกรองโรคแบบ 100เปอร์เซ็นต์ หากพบมีไข้ จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลตามขั้นตอน หากไม่มีไข้ สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามปกติ ยกเว้นผู้ที่เดินทางจาก 4 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ได้แก่ อิตาลี สาธารณรัฐเกาหลี จีน อิหร่าน และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า หากเป็นคนไทย แม้จะไม่มีไข้จะต้องถูกส่งกลับภูมิลำเนาและกักตัว ภายในบ้านพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ทางจังหวัดจัดตั้งติดตามใกล้ชิด และไม่อนุญาตให้ออกจากที่พักโดยเด็ดขาด แต่หากเป็นชาวต่างชาติ ต้องเข้าพักที่โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมโรคของรัฐ เป็นเวลา 14 วัน หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที