30-03-2563

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิด 3 มาตรการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ช่วยขน ช่วยขาย เร่งแผนระบายผลไม้ ช่วยเกษตรกรสู้พิษ COVID-19 ผ่านออนไลน์ พร้อมส่งตรงของดีจากสวนถึงหน้าบ้าน

   นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากการคาดการณ์เกี่ยวกับผลไม้ไทยในช่วงฤดูร้อนของปี 2563 ที่คาดว่าจะมีปริมาณมากและอาจตกอยู่ในสภาวะ ล้นตลาด รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ในประเทศคู่ค้า อาทิ ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลี ส่งผลกระทบด้านการส่งออก เนื่องจากประเทศคู่ค้าเหล่านี้ลดปริมาณการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรและลดการเดินทางท่องเที่ยวมาบริโภคผลไม้ในไทย ไปรษณีย์ไทยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนซื้อผลไม้ผ่านระบบออนไลน์ หลีกเลี่ยงการออกไปหาซื้อผลไม้นอกบ้าน ลดการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 พร้อมมุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาสถานการณ์ให้เป็นไป ในทิศทางที่ดีขึ้นของเกษตรกร ล่าสุดจึงได้มีมาตรการในการช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรให้มีรายได้จากการค้าขาย ด้วยการเป็นส่วนช่วยกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านโครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข”

   นายก่อกิจ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยเปิด 3 มาตรการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ช่วยขน ช่วยขายอาทิ “ช่วยขน” คือ จากสวนสู่ออนไลน์ โดยไปรษณีย์ไทยใช้ศักยภาพการขนส่งและการเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในการเป็นช่องทางโฆษณา ประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดโปรโมชันสินค้าผลไม้คุณภาพผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart.com นอกจากนี้ เกษตรกรสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ผ่านการสมัคร ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ โดยไปรษณีย์ไทยจะนำสินค้าเหล่านั้น ขึ้นเป็นสินค้าแนะนำ บนหน้าแรกของเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เห็นและซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งรวบรวมหมวดสินค้าอื่น ๆ อาทิ อร่อยทั่วไทย ของดีประจำจังหวัด สุขภาพและความงาม เพื่อกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเม็ดเงินไหลเวียนในช่วงภาวะวิกฤตนี้ // “ช่วยขาย” คือ สร้างรายได้ให้เกษตรกร ไปรษณีย์ไทยในฐานะรัฐวิสาหกิจซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน และดำเนินธุรกิจบนความรับผิดชอบต่อสังคม จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ศักยภาพด้านขนส่ง หรือโลจิสติกส์ และการเป็นมาร์เก็ตเพลสของ “ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท” เป็นสื่อกลางในการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ด้วยการรับขนส่งผลผลิตจากสวนของเกษตรกรถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ของไปรษณีย์ไทย อาทิ เว็บไซต์ / แอปพลิเคชัน (Thailandpostmart.com) และที่ทำการไปรษณีย์ไทยกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และสุดท้าย “ช่วยส่งต่อ” ผลผลิต คือ จากสวนถึงรั้วบ้าน จุดแข็งสำคัญของไปรษณีย์ไทยคือโครงข่ายการขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ จากสวนของเกษตรกร ส่งตรงไปยังผู้บริโภคด้วยระบบของไปรษณีย์ด่วนพิเศษหรือ EMS ด้วยมาตรฐานส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลผลิตคุณภาพดีจากแหล่งผลิตโดยตรง.