02-04-2563

สำนักงาน กศน. จัดกิจกรรม “วันรักการอ่าน” 2 เมษายน 2563 ผ่านระบบออนไลน์ พร้อมเนรมิตห้องสมุดประชาชนสู่ Co-Learning Space

   ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึง “วันรักการอ่าน” ซึ่งตรงกับวันที่ 2 เมษายนของทุกปี ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็น “เจ้าฟ้านักอ่าน” ด้วยทรงให้ความสำคัญกับการรู้หนังสือ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาชาติ โดยได้ทรงพระราชทานลายพระหัตถ์ว่า “ร่วมกันทำให้ชาวโลกอ่านออกเขียนได้” สำนักงาน กศน. ได้สนองพระราชดำริและพระราชปณิธานแห่งเจ้าฟ้านักอ่านของไทย โดยจัดทำแผนยุทธศาสตร์การศึกษา ส่งเสริมการอ่านแก่ประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อพัฒนาให้คนไทยมีความสามารถในด้านการอ่าน และมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้นมาโดยตลอด และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” แห่งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 นับจนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 100 แห่ง โดยในปี 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปีเป็น “วันรักการอ่าน” และยังกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นกลไกขับเคลื่อนการส่งเสริมการอ่านให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้คนไทยได้รับการพัฒนาความสามารถในการอ่านและการรู้หนังสืออย่างต่อเนื่องและทั่วถึง

   ดร.กนกวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการซี่งกำกับดูแลสำนักงาน กศน. จึงได้มีนโยบายให้ขยายผลจากทรัพยากรที่สำนักงาน กศน. มีอยู่ โดยเฉพาะห้องสมุดทั่วประเทศ เพื่อจัดทำ Co-Learning Space ด้วยการปรับการใช้ประโยชน์ของห้องสมุดในแต่ละพื้นที่มาต่อยอดโดยยึดความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ได้แก่ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนได้ในทุกพื้นที่ มีเทคโนโลยีที่เหมาะสม ได้แก่ อินเทอร์เน็ต wifi เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งหนังสือใหม่ ๆ ที่สามารถอ่านที่ห้องสมุดและยืมไปอ่านที่บ้าน มุมจัดกิจกรรม พร้อมการประชาสัมพันธ์ในการจัดกิจกรรมต่างๆ และมุมที่สามารถนั่งทำงานได้โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการสนับสนุนองค์ความรู้ ตลอดจนหนังสือใหม่ๆ ทั้งนี้ Co-Learning Space จะเริ่มต้นในห้องสมุดหรือศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ จำนวน 6 แห่ง ตามจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สงขลา กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช และเชียงใหม่ โดยประชาชนในแต่ละชุมชนจะมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อให้เป็นอัตลักษณ์และความแข็งแกร่งของชุมชนชนในอนาคต

   ด้าน ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการสำนักงาน กศน. ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรม “วันรักการอ่าน” ว่า ทุก ๆ ปี ในสถานการณ์ปกติ สำนักงาน กศน. ได้จัดงาน “วันรักการอ่าน” มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดกิจกรรมและนิทรรศการเพื่อเทิดพระเกียรติ “เจ้าฟ้านักอ่านของไทย” ในปีนี้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมในลักษณะของการรวมตัวได้ แม้ห้องสมุดประชาชนต้องปิดให้บริการชั่วคราว แต่บรรณารักษ์ยังคงทำงานอยู่โดยเผยแพร่ความรู้และแนะนำหนังสือต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ดังนั้น การจัดกิจกรรม “วันรักการอ่าน” ในวันที่ 2 เมษายน 2563 จะเป็นไปในลักษณะของการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพื่อให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการอ่านผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งสิ้น