02-04-2563

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา การันตีจากสถานศึกษาผู้ใช้จริง ลดภาระเอกสาร พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัด

   นางสาวขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า การยกระดับมาตรฐานการศึกษาของประเทศ โดยมีสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นเรื่องสำคัญคือการลดภาระงานด้านเอกสาร เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ภาระงานต่าง ๆ ถือว่าเป็นอุปสรรคสำหรับการถ่ายทอดวิชา ความรู้ให้แก่ลูกศิษย์ ดังนั้นหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจึงพยายามหาแนวทางเข้ามาช่วยเหลือและลดภาระให้แก่ครูผู้สอน เพราะในแต่ละภาคการศึกษา นอกจากเอกสารสำหรับการเรียนการสอนแล้ว สถานศึกษาและครูผู้สอนยังต้องทำเอกสารประกอบการประเมิน หรือการตรวจเยี่ยมอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นภาระอย่างเลี่ยงไมได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระด้านเอกสารของสถานศึกษา สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. หน่วยงานที่ดูแลเรื่องระบบการประเมินคุณภาพการศึกษา มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลักดันระบบการศึกษาให้ดีขึ้น จึงได้มีตัวช่วยเพื่อทำให้งานประเมินมีประสิทธิภาพ และง่ายขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Automated QA หรือ AQA ที่เรียกว่า ระบบสารสนเทศเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบที่ช่วยให้การรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ง่ายต่อการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น

   นางสาวขนิษฐา กล่าวต่อไปว่า สมศ. มีความตั้งในที่จะลดภาระงานด้านเอกสารให้แก่สถานศึกษา และครูผู้สอนทั่วประเทศ เพื่อให้ครูผู้สอนได้ใช้เวลาในการสอนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงได้นำเอาระบบ Automated QA หรือ AQA มาใช้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการประเมินคุณภาพภายนอก ลดภาระงานเอกสารของสถานศึกษา และเป็นการบูรณาการด้านการประเมินคุณภาพการศึกษาระหว่าง สมศ. และต้นสังกัด หรือหน่วยงานที่กำกับดูแล อีกทั้งการพัฒนาระบบดังกล่าวขึ้นมานั้นจะช่วยให้การดำเนินงานและการบริหารจัดการให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สถานศึกษาสามารถจัดทำรายงาน การประเมินตนเอง (SAR) ส่งต้นสังกัด และหลังจากนั้นต้นสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน /

   สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา / กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรุงเทพมหานคร จะส่งข้อมูลรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ของสถานศึกษา ผ่านระบบ AQA เข้ามายัง สมศ. จากนั้น สมศ.โดยผู้ประเมินภายนอกจะวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อกำหนดวันลงพื้นที่และตรวจเยี่ยมสถานศึกษา ระหว่างการลงพื้นที่ประเมินนั้นทางสถานศึกษาและครูผู้สอนไม่ต้องจัดทำเอกสารเพิ่มเติมขึ้นใหม่ เพื่อขอรับการประเมินคุณภาพภายนอก เพราะผู้ประเมินคุณภาพภายนอกจะพิจารณาตามหลักฐานเชิงประจักษ์ อาทิ การเรียนการสอนในชั้นเรียน มาตรฐานที่สถานศึกษากำหนดไว้

   สำหรับขั้นตอนการทำงานระบบ AQA ทำได้ดังนี้ ก่อนการประเมิน สถานศึกษาส่งรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ผ่านหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อรอรับการประเมิน ระหว่างการประเมิน สถานศึกษาสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลของผู้ประเมินได้ หลังการประเมิน ทางสถานศึกษาจะต้องทำการประเมินคณะผู้ประเมินว่ามีผลการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร พร้อมทั้งดาวโหลดไฟล์รายงานฉบับสมบูรณ์ได้ ทั้งนี้ระบบดังกล่าว สมศ. ได้เริ่มนำมาใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พ.ศ.2559-2563 และในปี พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของ การประเมินรอบสี่ สมศ.จะพัฒนาระบบ AQA ในระยะที่สองด้วยการส่งเสริมให้หน่วยงานต้นสังกัดเป็นศูนย์สารสนเทศด้านการประกันคุณภาพการศึกษา โดยที่สถานศึกษาส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานต้นสังกัดได้เลย ไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลหรือจัดทำเอกสารประกอบการประเมินคุณภาพภายนอกมายัง สมศ. เพื่อลดภาระการป้อนข้อมูลด้านการประกันคุณภาพของสถานศึกษา ซึ่งจะเริ่มทดลองใช้ในการประเมินการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาก่อน ถือว่าเป็นการสนับสนุนการประเมินคุณภาพสถานศึกษาจากรูปแบบเอกสารไปสู่รูปแบบดิจิทัล

   ด้าน นายวัชระ บำรุงพงษ์ ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนศรีราชา กล่าวว่า สำหรับระบบการประเมินแบบ Automated QA หรือ AQA ถือว่าช่วยลดเวลาในการทำเอกสารของสถานศึกษาและครูผู้สอน ทำให้มีเวลาในการเตรียมพร้อมสำหรับการสอนนักเรียนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรายวิชาที่เป็นรายวิชาปฏิบัติการ อีกทั้งครูและนักเรียนได้ใช้เวลาเรียนรู้ ตอบคำถาม หรือแก้ปัญหาร่วมกัน มากยิ่งขึ้น ซึ่งมองว่าการนำระบบดังกล่าวมาใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอก นอกจากจะเป็นการยกระดับการประเมินคุณภาพการศึกษาของไทยแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมให้การเรียนการสอนภายในสถานศึกษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้านตัวบุคลกรเองไม่ต้องกังวลในเรื่องการทำเอกสารและการเตรียมตัวเพื่อเข้ารับ การประเมิน และแน่นอนว่าหากโรงเรียนมีการเรียนการสอนที่ดีแล้วก็จะถูกสะท้อนออกมาผ่านตัวผู้เรียนที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษา