นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติที่ผ่านมา ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดระเบียบในเรื่องของจัดกิจการกิจกรรมลูกเสือ รวมถึงการจัดสรรงบประมาณ และการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อช่วยผลักดันให้การเรียนการสอนลูกเสือ และกิจกรรมลูกเสือมีความต่อเนื่องเข้มข้น และเป็นยกระดับการดำเนินงานของกิจกรรม การเรียนการสอนลูกเสือต่างๆ เพราะถือเป็นการสร้างวินัย สร้างคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมต่างๆ ปลูกฝังเด็กได้ตั้งแต่เด็กและเยาวชน อันนำไปสู่การเป็นนักเรียนที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีแนวทางในการปรับปรุงค่ายลูกเสือ ทั้งในการใช้จ่ายงบประมาณในการนำไปปรับปรุงค่ายลูกเสือในบางพื้นที่ บางจังหวัด และได้มอบให้แต่ละค่ายลูกเสือที่มีการปรับปรุงต้องมีการรณรงค์ สนับสนุน เชิญชวนให้โรงเรียน ภาคเอกชน หรือหน่วยงานต่างๆ มาใช้บริการค่ายลูกเสือ เพื่อจะได้เป็นรายได้นำไปพัฒนาค่ายลูกเสือต่อไป

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม กิจการลูกเสือ เกิดจาก พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระบิดาแห่งลูกเสือไทย จนมาถึงในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 และจวบจนถึงรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระราโชบายที่จะสืบสานกิจการลูกเสือให้คงอยู่คู่สังคมไทย โดยก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการได้มีการผลักดันงบประมาณในการพัฒนาค่ายลูกเสือจังหวัด เพื่อให้มีความพร้อมในการรองรับการจัดอบรมลูกเสือ โดยในปีงบประมาณ 2563 จะดำเนินการพัฒนาทั้งค่ายลูกเสือ จำนวน 29 จังหวัด พร้อมทั้งขอตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2564 เพื่อพัฒนาค่ายลูกเสือจำนวน 19 จังหวัด ต่อไป