08-07-2563

กรมประมง จับมือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และงานวิจัยด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

   นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมง และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ลงนามความร่วมมือ “การวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ” เพื่อการดำเนินงานด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม รวมทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนร่วมกันกำหนดทิศทางงานวิจัยและพัฒนาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศ ทั้งระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันในตลาดโลก และทำให้สัตว์น้ำไทยมีเอกลักษณ์เป็นอันดับหนึ่งของโลก ตลอดจนสนับสนุนให้มีการนำผลงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

   จากข้อมูลการวิเคราะห์สถิติการประมงของจังหวัด พบว่า ตัวเลขข้อมูลของสัตว์น้ำที่ใช้ดำเนินงาน จะมาจาก 2 ส่วน คือ การจับสัตว์น้ำจืดจากธรรมชาติ ประมาณร้อยละ 70 และระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ประมาณร้อยละ 30 กรมประมงจึงมีนโยบายในการวิจัยและพัฒนาในส่วนของระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการอาหารของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาองค์ความรู้ในการวิจัย การศึกษา และวิเคราะห์จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เติบโตและเจริญก้าวหน้า มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของห่วงโซ่อาหารไปจนถึงกระบวนการแปรรูปอาหาร เชื่อมั่นว่าผลงานที่จะเกิดขึ้นของ กรมประมง และ สวทช. จะตอบโจทย์ประเทศในรูปแบบใหม่ให้เติบโต ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม หรือ วทน. เพื่อสร้างธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศสู่การแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจาก กรมประมง มีศักยภาพในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และ สวทช. มีองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะสนับสนุนในเรื่องของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ดังนั้นการที่อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจะเจริญก้าวหน้าสู่อันดับแรก ๆ ของโลกได้นั้น จะต้องเกิดจากการร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

   ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กล่าวว่า สวทช. มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยแข็งแกร่งและก้าวสู่การแข่งขันบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก โดยการนำความสามารถทางด้าน วทน. มาสนับสนุนภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมให้สามารถดำเนินงาน ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย สวทช. มีโปรแกรมการผลิตสัตว์น้ำและสุขภาพสัตว์น้ำ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบวิจัยด้านเกษตรและอุตสาหกรรมชีวภาพ ทำงานเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับการผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เน้นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พึ่งพาทรัพยากรและวัตถุดิบภายในประเทศและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตสัตว์น้ำของประเทศทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ครอบคลุมการวิจัยและพัฒนาในหลายด้าน เช่น ด้านการปรับปรุงพันธุ์ สวทช. มีงานวิจัยเกี่ยวกับการคัดเลือกพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุล, ด้านอาหารมีการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์เพื่อพัฒนาเป็นอาหารและสารเสริมภูมิคุ้มกันในสัตว์น้ำ รวมถึงการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์น้ำโดยใช้เทคโนโลยีการเก็บสารสำคัญ, ด้านระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีการพัฒนางานวิจัยด้านระบบอัจฉริยะที่ช่วยเกษตรกรติดตามดูแลคุณภาพน้ำในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ อันประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีหลักคือ ระบบบริหารจัดการคุณภาพน้ำ, อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณสารเคมี, อุปกรณ์ตรวจวัดการเจริญเติบโต ของแบคทีเรีย รวมไปถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคและสุขภาพสัตว์น้ำ เช่น การพัฒนานาโนวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในสัตว์น้ำ เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นการดำเนินงานวิจัยทางด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนร่วมกันกำหนดทิศทางงานวิจัยและพัฒนาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางอาหารของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และการทำให้สัตว์น้ำไทยมีเอกลักษณ์เป็นที่หนึ่งของโลก ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในปัจจุบันที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของผลผลิตจากการจับสัตว์น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ และการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก ทำให้มีการพัฒนาวิธีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่หลากหลาย การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำดังกล่าวบางครั้งอาจได้รับผลกระทบจากสภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสม การเกิดโรคระบาด ที่อาจส่งผลต่อระบบการเลี้ยงสัตว์น้ำได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยถือว่า เป็นประเทศที่มีจุดแข็งในเรื่องของภูมิประเทศที่ค่อนข้างมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยด้านสัตว์น้ำ เกษตรกรในประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งภาคเอกชนมีความเข้มแข็งเข้าถึง วทน. และตลาดได้เป็นอย่างดี

   ปัจจุบัน สวทช. เริ่มมีงานวิจัยที่ทำร่วมกับกรมประมงบ้างแล้ว เช่น โครงการ “การปรับปรุงลักษณะ การเจริญเติบโตปลานิลในระบบการเลี้ยงแบบน้ำหมุนเวียน” ที่ดำเนินการอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำปทุมธานี โครงการ “ผลของการใช้ถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนปลาป่นในอาหารเม็ดสำเร็จรูป ต่ออาการขี้ขาวของกุ้งขาวแวนนาไม” ซึ่งผลงานวิจัยบางส่วนนี้ นำมาสู่การเชื่อมโยงกับการทำงานร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางนำผลงานวิจัยที่เข้มแข็งไปประยุกต์ใช้และสนับสนุนอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน