นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคมะเร็งอีวิงซาร์โคม่านี้ จะพบบ่อยในกระดูกระยางค์ทั้งแขน และขา แต่ช่วงต้นขาและรอบเข่าจะพบบ่อยที่สุด แต่ในบางครั้ง อาจจะพบในตำแหน่งกระดูกส่วนแกนกลางร่างกาย ประกอบไปด้วย กระดูกเชิงกราน กระดูกเบนเหน็บ หรือกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตรวจพบยากกว่า เนื่องจากลึกกว่า จึงมักปรากฏอาการช้าโดยอาการที่พบ เมื่อตัวโรคกำเนิด ที่กระดูกระยางค์ อาทิ ปวด บวม คลำได้ก้อน บางครั้งอาจจะพบอาการที่คล้ายการติดเชื้อ คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลียน้ำหนักลด เนื่องจากเซลต้นกำเนิดของโรคเป็นเซลล์ที่คล้ายกับเซลล์ของกลุ่มโรคที่มี การอักเสบและติดเชื้อ ในขณะที่อาการที่พบในผู้ป่วยที่มีรอยโรคในกระดูกแกนกลางลำตัว จะมีอาการปวดบริเวณรอยโรคหรือปวดร้าวไปบริเวณอื่น อันเนื่องจากมีการกดทับหรือเบียดเส้นประสาทส่วนการคลำก้อน จะทำได้ยากกว่าก้อนที่อยู่บริเวณระยางค์ นอกเสียจากก้อนมีขนาดใหญ่มาก ๆ จนนูนบวมออกมา
ด้าน นายแพทย์ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ ผู้อานวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาโรคมะเร็งอีวิงซาร์โคม่าที่ได้รับการวินิจฉัยและเริ่มต้นการรักษาอย่างรวดเร็วมักจะได้รับผลการรักษาที่ดี โดยการรักษาประกอบด้วย การให้ยาเคมีบำบัด การผ่าตัดและการฉายรังสีรักษาร่วมกัน การให้เคมีบำบัดจะให้ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อลดขนาดก้อนและลดอัตราการแพร่กระจายของโรค เพื่อให้การผ่าตัดนำก้อนออกให้เกลี้ยงแบบเป็นวงกว้างสามารถทำได้ง่ายขึ้น ส่วนการฉายรังสีรักษาจะนิยมใช้ในกรณีที่ไม่สามารถนำก้อนออกแบบเป็นวงกว้างได้ทั้งหมด หรือผ่าตัดแล้วพบว่า นำก้อนออกไม่หมดซึ่งมักจะเป็นตำแหน่งที่ผ่าตัดได้ยาก อาทิ กระดูกเชิงกราน กระดูกเบนเหน็บ หรือกระดูกสันหลัง ซึ่งการฉายแสงนี้จะช่วย ลดขนาดและลดอัตราการกลับมาเป็นซ้ำของตัวโรคนี้ได้ในระดับหนึ่ง