03-08-2563

สสส. ร่วมกับ กองบิน 5 อ่าวมะนาว กองทัพอากาศ และนิด้า จัดกิจกรรม “อ่าวมะนาว ปลอดภัยถูกกฎ ลดเสี่ยง (โควิด เหล้า บุหรี่)”

   นาวาอากาศเอกชยศว์ สวรรค์สรรค์ ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวว่า กองบิน 5 ให้ความสำคัญถึงปัจจัยเสี่ยงอย่างเหล้า บุหรี่ ที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งทางสุขภาพและสังคม โดยเฉพาะในวิกฤตโควิด-19 จึงได้ดำเนินโครงการการพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวเขตทหารต้นแบบเพื่อส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ โดยบุคลากร ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชา หัวหน้างาน รองหัวหน้างาน กำลังพล ข้าราชการ รวมถึงครอบครัว จะได้รับการพัฒนาสมรรถนะและความรู้เรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ ในความดูแลของกองบิน 5 อ่าวมะนาว เป็นพื้นที่การท่องเที่ยวต้นแบบลดปัจจัยเสี่ยงทั้งเหล้าบุหรี่ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาทิ การห้ามจำหน่ายเหล้า บุหรี่ ภายในพื้นที่อาคาร โรงแรมที่พักทั้งหมด ยกเว้นการบริการในมินิบาร์ และพื้นที่เขาล้อมหมวก ทั้งนี้ จะมีการรณรงค์ห้ามดื่มเหล้า สูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ อาทิ ชายหาด และสนามกอล์ฟ โดยจะมีการลงพื้นที่ตรวจเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

   ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเชิญชวนทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ “ชีวิตวิถีใหม่” หรือ New Normal และนอกจากการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ แล้ว การลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งข้อมูลวิชาการยืนยันว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีประวัติสูบบุหรี่รวมถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีโอกาสป่วยหนักกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 14 เท่า และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อในปอดถึง 2.9 เท่า การดำเนินโครงการ “อ่าวมะนาว ปลอดภัยถูกกฎ ลดเสี่ยง(โควิด เหล้า บุหรี่)” จะช่วยกระตุ้นให้คนไทยปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง ร่วมกันรณรงค์ให้เกิดความตระหนัก สร้างจิตสำนึกในการส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่

   ดร.สุปรีดา กล่าวต่อไปว่า การลดพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจาก ช่วยลดความเสี่ยงของการติดโควิด-19 แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ โรค NCDs (โรก-เอ็น-ซี-ดี) ด้วย ซึ่งประเทศไทยมีประชากรที่เสียชีวิตจากโรค NCDs ประมานร้อยละ 75 ของอัตราการเสียชีวิตทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่ม ซึ่งโรค NCDs เกิดจาก 4 กลุ่มโรคหลัก อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด /โรคมะเร็ค /โรคเบาหวาน และโรคปอดเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งโรค NCDs มีสาเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยง 4 ปัจจัย ประกอบไปด้วย การสูบบุหรี่ /การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ /รับประทานอาหาร ที่ไม่เหมาะสม และไม่ออกกำลังกาย

   นอกจากนี้ ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2560 พบว่า ประเทศไทยมีประชากร 6.4 ล้านคน มีพฤติกรรมสูบบุหรี่และดื่มสุรา ในจำนวนนี้เป็นผู้สูบบุหรี่เป็นประจำและดื่มสุราอย่างสม่ำเสมอสูงถึง 3.8 ล้านคน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงซ้ำซ้อน โดยคนกลุ่มนี้มีโอกาสเสี่ยสูงที่จะป่วยด้วยโรค NCDs และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียง ดังนั้น สสส. จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนตั้งเป้าหมาย และลงมือสร้างสุขภาวะที่ดีให้ตัวเองและสังคม ด้วยการเลิกสูบบุหรี่และดื่มเหล้า เพราะพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกด้วย

   ในขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกศรา สุกเพชร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภาคบริการและการท่องเที่ยว คณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า กล่าวว่า วิกฤต โควิด-19 ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในทุกมิติ จากข้อมูลการพยากรณ์ของกสิกรไทย พบว่า คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะติดลบมากกว่าร้อยละ 60 นักท่องเที่ยวไทยอาจหดตัว ร้อยละ 52.3 โดยนักท่องเที่ยวยังมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงผลกระทบจากความเชื่อมั่น ต่อการมีงานทำ และกำลังซื้อที่อ่อนแอของประชาชน ซึ่งกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวระดับบนจะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวกลับมาได้เร็วกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นการท่องเที่ยวยุคหลังโควิด-19 ต้องให้ความสำคัญทั้งเรื่อง safety & security และเรื่อง Hygiene & Healthy อย่างมาก