ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดเผยว่า หลังจาก สปสช. ตรวจสอบพบความผิดปกติการเบิกจ่ายค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันกันโรคของคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาลเอกชน จากเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ล่าสุด สปสช. ได้ดำเนินการยกเลิกสัญญา พร้อมแจ้งความดำเนินคดีการทุจริตทั้งทางแพ่งและอาญา ไปแล้วจำนวน 82 คลินิก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกกว่า 100 คลินิก ส่งผลให้มีประชาชนประมาณ 800,000 ราย ได้รับผลกระทบ ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาและรับยาอย่างต่อเนื่องประมาณ 100,000 ราย เบื้องต้น สปสช. ได้แก้ไขปัญหา ด้วยการจัดหาหน่วยบริการทดแทนและได้รับความร่วมจากกรุงเทพมหานครให้ผู้ป่วยเข้าไปรับยารักษาโรคที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่งในสังกัดกรุงเทพมหานครได้ทันทีโดยไม่ต้องมีใบส่งตัว ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีคลินิกบางแห่งเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยกรณีไปขอประวัติการรักษาจากคลินิกเดิม สปสช. จึงได้แก้ไขโดยอำนวยความสะดวกนำข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยทั้งหมดเข้าสู่ระบบเซฟเวอร์ ระบบประวัติ สปสช. หากได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยเจ้าของสิทธิ โรงพยาบาลปลายทางสามารถดึงข้อมูลประวัติการรักษาได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังคลินิกต้นทางที่ถูกยกเลิกสัญญากับ สปสช.ไปแล้ว ห้ามเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยในกรณีเข้าไปขอประวัติการรักษาเพื่อนำไปรักษากับคลินิกแห่งใหม่

   ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มผู้ป่วย ที่กลายเป็นสิทธิ์ว่างซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ในช่วงระยะเวลาสั้น หรือช่วงเวลาเร่งด่วนผู้ป่วย กลุ่มดังกล่าวจะได้รับสิทธิพิเศษ ว่า สามารถเข้ารับบริการที่ไหนก็ได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน รวมถึงที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้ารับบริการ จนกว่า สปสช. จะหาหน่วยบริการใหม่มาทดแทน โดยผู้ป่วยไม่ต้องเปลี่ยนหน่วยบริการ หากประชาชนมีข้อสงสัย การเข้ารับบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ 3 ช่องทาง ที่สายด่วน สปสช. 1330 ระบบแอปพลิเคชัน LINE @: UCBKK หรือ facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยสามารถส่ง Inbox ส่งคำถามพร้อมหมายเลขโทรศัพท์จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตอบคำถามแก่ประชาชน