นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงการให้สิทธิ์ผู้ประกันตนได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ว่า จากสถานการณ์ที่มี การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 องค์การอนามัยโลก แนะนำการใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในสถานการณ์ การระบาด เพื่อลดขั้นตอนการคัดกรอง วินิจฉัยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ที่ในทุกปีจะมีผู้ประกันตนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่กว่า 20,000 คน จากผู้ประกันตนกว่า 10 ล้านคน ค่าใช้จ่ายที่ประกันสังคมจ่ายให้กับสถานพยาบาลต่อคนประมาณ 15,000 บาท สำนักงานประกันสังคม เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันมากกว่าการรักษา จึงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ให้ได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดปีละ 1 ครั้ง จากมาตรการนี้จะมีผู้ประกันตนที่กลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปได้รับสิทธิประโยชน์ประมาณ 2 ล้านคน และขอยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคมจะมุ่งมั่นและทุ่มเทการทำงาน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เน้นการทำงานเชิงรุกและให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตน ที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกสถานการณ์อย่างทันท่วงที

   นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนการขอรับบริการของผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เริ่มรับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยขอให้ผู้ประกันตนติดต่อขอรับบริการได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิ หากสถานพยาบาลตามสิทธิการรักษาไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมให้บริการ ให้แจ้งลงทะเบียนขอรับบริการล่วงหน้าได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2956 2500 ถึง 2510 เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แน่นอน โดยจะมีการนัดหมายวันเวลาและสถานที่ที่เข้ารับวัคซีน สำหรับการให้บริการตั้งแต่ปี 2564 สามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึงวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี